เครดิต : คมชัดลึก 4 ก.ค. 2557
อาหารที่เราบริโภคอยู่ทุกวันนี้มีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งได้ถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันอาหารหลายประเภทก็มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาพืชผักผลไม้ ธัญพืช เครื่องเทศต่างๆ วันนี้ได้โอกาสขอพูดถึงพืชตระกูลกะหล่ำ อันได้แก่ บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว หัวผักกาด ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์มากมายหลายชนิด แต่ที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งคือ สารชัลโฟราเฟน สารอินโดล-3-คาร์บินอล สารไอโซไธโอไซยาเนต สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลายประการ ตั้งแต่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเอ็นไซม์ที่กระตุ้นสารก่อมะเร็ง ดักจับสารก่อมะเร็งและอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์ปกติและทำลายดีเอ็นเอซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง ส่งเสริมเอ็นไซม์ที่ขับพิษของสารก่อมะเร็ง รักษาสมดุลของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ที่รับประทานพืชตระกูลกะหล่ำเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่
แต่ถ้ามาดูพระเอกของพืชตระกูลนี้คือบรอกโคลี ยังอุดมไปด้วยสารเบตาแคโรทีน วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม แมกนีเซียม โฟเลตและธาตุซีลีเนียมในปริมาณที่สูงอีกด้วย นอกจากนั้นสารซัลโฟราเฟนในบรอกโคลียังช่วยให้ตับขับสารพิษออกจากร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรอกโคลีต้นอ่อน ส่วนกะหล่ำดอก กะหล่ำปลีก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นใครที่รับประทานพืชตระกูลกะหล่ำที่ว่านี้มากกว่า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ลงถึง 66 เปอร์เซ็นต์ หรือจะกินกะหล่ำปลีปรุงสุกวันละ 2 ช้อนโต๊ะ ก็สามารถช่วยป้องกันมะเร็งในช่องท้องได้
การกินพืชผักสดนั้นดีกว่าที่ปรุงสุกแล้ว เพราะไม่มีการสูญเสียสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ไปกับความร้อน แต่ที่สำคัญพืชผักบ้านเราก็มียาฆ่าแมลงไม่น้อยด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นก่อนกินต้องแน่ใจว่าล้างสะอาดปราศจากสารพิษแล้วนะครับ…ขอบอก