รู้ทันมะเร็ง : ข่าวมั่วๆ เรื่องโรคมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  19 มิ.ย. 2558           การติดต่อสื่อสารในปัจจุบันยุคโลกออนไลน์มีทั้งเชื่อถือได้บ้างไม่ได้บ้างเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นเรื่องที่ผู้รับสื่อในยุคนี้ ต้องใช้วิจารณญาณในการรับข้อมูลข่าวสารเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นสารพัดข้อความ รูปภาพต่างๆ โดยเฉพาะข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพที่มีโอกาสสร้างความตื่นตระหนกตกใจแก่ประชาชน ยิ่งข่าวสารเกี่ยวกับโรคมะเร็งแล้วต้องใช้วิจารณญาณมากกว่าปกติหลายเท่า เพราะมักมีธุรกิจแอบแฝงอยู่เป็นประจำ                    เรื่องที่สร้างความตกอกตกใจเกี่ยวกับโรคมะเร็งล่าสุด ที่ไม่ใช่เรื่องจริงไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับก็เช่น บอกว่าห้ามกินอาหารกะทิค้างคืน ห้ามกินผัดผักค้างคืน เพราะจะทำให้เป็นมะเร็ง ห้ามกินกล้วยทอด ปาท่องโก๋ ขนมครก ซึ่งก็ไม่เป็นเรื่องจริง ยกเว้นพวกของทอดที่ทอดด้วยน้ำมันทอดซ้ำ อันนี้แน่นอนอยู่แล้วว่ามีสารก่อมะเร็ง รวมไปถึงข้อมูลมั่วๆ เรื่องการทำแมมโมแกรมทำให้เป็นมะเร็งเต้านมมากขึ้น เพราะได้รับรังสี มิหนำซ้ำยังมีการบังอาจยกเมฆแอบอ้างว่าที่สหรัฐอเมริกา ไม่แนะนำให้ตรวจแมมโมแกรมอีกต่างหากแต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด เพราะการทำแมมโมแกรมนั้นใช้ปริมาณรังสีในการตรวจน้อยมาก ประโยชน์ที่ได้รับจากการตรวจจึงมากกว่าอันตรายจากการได้รับรังสีปริมาณน้อยอย่างไม่ต้องสงสัย                    อีกข่าวเท็จเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่ส่งต่อกันจนประเทศไทยเกิดความเสียหาย…

รู้ทันมะเร็ง : วิตามินช่วยป้องกันมะเร็งได้จริงหรือ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  14 มี.ค. 2557           ปลายเดือนที่แล้วมีข่าวสุขภาพที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับเรื่องประโยชน์ของการบริโภควิตามิน เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่อเมริกันชน นับเป็นข่าวฮือฮาพอสมควร เนื่องจากปัจจุบันเม็ดเงินในอุตสาหกรรมการบริโภควิตามินในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าสูงมหาศาลถึง 9 แสนกว่าล้านบาท และผู้ใหญ่ชาวอเมริกันประมาณ 50% กินวิตามินเสริมอย่างน้อยหนึ่งตัวเป็นประจำและประมาณ 1 ใน 3 รับประทานวิตามินรวมเสริมเป็นประจำ โดยมีความเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อสุขภาพ แต่ผลการศึกษาล่าสุด นอกจากจะไม่ช่วยอะไรในผู้ใหญ่ที่ร่างกายปกติแข็งแรงอยู่แล้ว ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย                    หน่วยงานวิจัยด้านการป้องกันสุขภาพของสหรัฐฯ โดยทีมนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยชั้นนำ 16 คน ร่วมกันทบทวนผลการศึกษาทั่วโลกที่เกี่ยวข้องกับการใช้วิตามินต่อสุขภาพในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เพื่ออัพเดทข้อสรุปเรื่องนี้ที่เคยทำไว้เมื่อปี 2546 ว่ามีข้อมูลอะไรใหม่ๆ ที่สนับสนุนหรือไม่อย่างไร โดยมี 5 รายงานที่ศึกษาเรื่องวิตามินรวมและ 24 รายงานที่ศึกษาวิตามินเฉพาะตัวหรือเป็นคู่ ในส่วนของวิตามินรวม 3…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งกับสารต้านอนุมูลอิสระ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  25 ม.ค. 2556           ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีข่าวสำคัญในแวดวงสุขภาพที่ตรงข้ามกับความเชื่อในปัจจุบันที่ว่าสารต้านอนุมูลอิสระเป็นของดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการช่วยให้สุขภาพดี ป้องกันอนุมูลอิสระเข้าไปทำลายเซลล์ ป้องกันการเกิดมะเร็งและดีต่อสุขภาพอีกสารพัด แต่บทความที่ว่ากลับสวนทางกันคือนอกจากไม่ช่วยป้องกันมะเร็งแล้วยังอาจเป็นสาเหตุของมะเร็งและยังอาจจะทำให้มะเร็งที่เป็นอยู่กลับแย่ลงเร็วเสียด้วยซ้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งในระยะสุดท้าย ถ้าเป็นบทความของแพทย์หรือนักวิจัยทั่วไปธรรมดาคงไม่น่าตื่นเต้นเท่าใดนัก แต่นี่เป็นบทความของ ดร.เจมส์ วัตสัน นักชีววิทยาโมเลกุลชาวอเมริกัน เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ในปี พ.ศ.2505 ผู้สร้างผลงานชิ้นโบแดงสะท้านยุทธจักรวงการแพทย์ในยุคนั้นด้วยการค้นพบโครงสร้างรหัสพันธุกรรมดีเอ็นเอ ทำเอาวงการสุขภาพโลกต้องหันมาให้ความสนใจ                    ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันอีกครั้งว่า อนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระที่เรามักได้ยินชื่อกันเป็นประจำนั้นมีประโยชน์มีโทษอย่างไร อันว่าการใช้ชีวิตประจำวันตามปกติของคนเรานั้นมีการสร้างอนุมูลอิสระขึ้นภายในร่างกาย จากสาเหตุจิปาถะทั้งมลภาวะรอบตัว อาหาร สารพิษ สารเคมีจากสิ่งแวดล้อมและอื่นๆ รวมถึงความเครียดภายในร่างกาย แต่ไหนแต่ไรมาก็เชื่อกันมาว่าเจ้าอนุมูลอิสระที่ถูกสร้างขึ้นนี้เป็นสิ่งไม่ดีทำให้เซลล์ถูกทำลาย แก่ก่อนวัย ทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ สารพัดรวมถึงโรคมะเร็งด้วย การให้สารเข้าไปต่อต้านอนุมูลอิสระทั้งจากอาหารสดต่างๆ เช่น ผักสด ผลไม้ เมล็ดธัญพืชต่างๆ หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามินเม็ดสำเร็จรูปที่มีทั้งวิตามินเอ ซี…

รู้ทันมะเร็ง:ถุงซิลิโคนรั่วตัวการมะเร็งจริงหรือ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  20 ม.ค. 2555           ช่วงปลายปี 2554 มีข่าวฮือฮาจากหน่วยงานด้านสุขภาพของประเทศฝรั่งเศสออกมาให้ข่าวอย่างเป็นทางการว่า ถุงซิลิโคนคุณภาพต่ำที่ผลิตในฝรั่งเศสยี่ห้อหนึ่งที่ใช้ในการผ่าตัดเสริมเต้านมมีอัตราการฉีกขาดมากผิดปกติ ทำให้เกิดการรั่วไหลของซิลิโคนส่งผลให้เกิดเต้านมอักเสบ และที่สำคัญมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งของอวัยวะอื่นๆ ถึงขั้นแนะนำให้ผู้หญิงที่ได้รับการเสริมเต้านมด้วยซิลิโคนยี่ห้อนั้น ให้กลับไปพบแพทย์เพื่อผ่าตัดเอาซิลิโคนออกโดยรัฐจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้กันเลยทีเดียว ในขณะที่ทางฝั่งประเทศอังกฤษ ซึ่งก็มีการใช้ซิลิโคนยี่ห้อนี้อยู่จำนวนไม่น้อย มีผู้เชี่ยวชาญออกมาให้ความเห็นในทางตรงกันข้ามว่า ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่ามีความสัมพันธ์กับการเป็นมะเร็งมากกว่าในผู้หญิงปกติ ทำเอาลูกค้าบ้านเราทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ที่ทราบข่าวพากันสับสนระคนหวาดวิตกกันไปตามๆ กัน                    อันว่าเจ้าสารซิลิโคนนั้นเป็นสารที่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าโพลีไดเมทิลไซลอกเซน ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุหรืออวัยวะเทียมทางการแพทย์มานานหลาย 10 ปี มีประโยชน์มากมายหลายอย่างไม่เพียงแต่ใช้แค่ในการผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่ง เช่น เสริมจมูก เสริมเต้านมเท่านั้น แต่ยังใช้ผลิตเป็นเลนส์นัยน์ตาเทียม อุปกรณ์ควบคุมการเต้นของหัวใจ ลิ้นหัวใจเทียม ท่อหรือสายอาหาร สายสวนต่างๆ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นวัสดุที่เมื่อนำมาใส่ในร่างกายมนุษย์มีปฏิกิริยาต่อต้านน้อยกว่าวัสดุประเภทอื่น แต่ในกรณีที่ซิลิโคนเหลว ซึ่งควรจะอยู่ภายในถุงซิลิโคนรั่วไหลซึมแทรกเข้าไปเนื้อเยื่อนั้นจะส่งผลต่อการเกิดมะเร็งมากกว่าปกติหรือไม่นั้น ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน         …

รู้ทันมะเร็ง – ผ่าตัดแล้วมะเร็งกระจายจริงหรือ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  27 พ.ค. 2554           ในบรรดาความเชื่อของผู้ป่วยมะเร็งและญาตินั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาแผนปัจจุบัน การรักษาทางเลือกแบบใหม่ๆ ความเชื่อเรื่องหากเป็นมะเร็งแล้วผ่าตัดจะทำให้มะเร็งแพร่กระจายนับเป็นเรื่องที่อยู่ในอันดับต้นๆ ที่สำคัญคือทำให้ผู้ป่วยหลายรายเสียโอกาสสำคัญในการรักษาให้หายขาด เช่นเดียวกันกับศัลยแพทย์หรือหมอผ่าตัดที่ตกเป็นจำเลยว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้มะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย                    ว่ากันแบบตรงไปตรงมาแบบไม่ลำเอียง ไม่เข้าข้างใคร เรื่องนี้มีทั้งจริงและไม่จริงขึ้นกับแต่ละกรณีครับ ประเด็นแรก คือเรื่องที่ว่ามะเร็งยังไม่กระจายหรือกระจายไปก่อนแล้วนั้นเป็นประเด็นที่น่าสนใจ การที่เราจะบอกว่ามะเร็งก้อนนั้นกระจายไปแล้วหรือไม่ มีตั้งแต่การตรวจร่างกาย การใช้เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ ในการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อให้ทราบถึงระยะของโรคมะเร็งว่าเป็นถึงขั้นไหนแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ตามเทคโนโลยีปัจจุบันยังไม่สามารถตรวจได้แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามีเซลล์เล็กเซลล์น้อยผลัดหลงไปอยู่ตามอวัยวะอื่นๆ ก่อนผ่าตัดแล้วหรือไม่ เพราะฉะนั้นถ้าทำการตรวจวินิจฉัยครบถ้วนตามหลักวิชาการก็พอจะบอกได้อย่างมั่นใจระดับหนึ่งว่ามะเร็งแพร่กระจายไปมากน้อยเพียงใดอยู่ในระยะใดแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม                    ประเด็นที่สอง ผ่าตัดโดยไม่สงสัยมาก่อนเลยว่าจะเป็นมะเร็ง เนื่องจากประวัติและการตรวจต่างๆ ไม่เหมือนมะเร็ง ทำให้อาจจะผ่าตัดออกได้ไม่หมดหรือไม่ได้ขอบเขตของเนื้อดีที่ห่างจากก้อนเนื้องอกเพียงพอ กลุ่มนี้หากได้รับการผ่าตัดซ้ำเพื่อเอาส่วนที่เหลือออกในเวลาอันรวดเร็วหลังการผ่าตัดครั้งแรก โอกาสที่เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจายก็น้อยลง   …

รู้ทันมะเร็ง : เมนูอาหารไทยต้านมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  26 มิ.ย. 2558           อาหารการกินนับเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ทั้งช่วยทำให้ผู้บริโภคสุขภาพดี ห่างไกลโรคร้าย ในขณะเดียวกันอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ปัจจุบันอาหารไทยเราได้รับความนิยมจากชาวต่างประเทศทั่วโลก มีร้านอาหารไทยกว่า 2 หมื่นร้าน ใน 93 ประเทศทั่วโลก เพราะนอกจากรสชาติของอาหารไทยจะอร่อยถูกใจแล้ว ยังเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย คนไทยเราโชคดีกว่าผู้คนอีกหลายประเทศที่ได้รับประทานเครื่องเทศ สมุนไพร ผัก ผลไม้ที่ใหม่สดเสมอ แต่น่าเสียดายที่คนไทยส่วนหนึ่งกลับหันไปนิยมบริโภคอาหารต่างชาติที่เต็มไปด้วยเนื้อสัตว์และไขมันสูง จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นมะเร็งกันเพิ่มมากขึ้นอย่างที่เป็นทุกวันนี้                      หลายคนอาจเคยได้รู้จัก 9 เคล็ดลับอาหารต้านมะเร็งมาแล้วคือ กินผักหลากสีทุกวัน ขยันหาผลไม้เป็นประจำ ทำอาหารธัญพืชและเส้นใย ใส่เครื่องเทศเสริมรสชาติอาหาร เพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าละเลยปรุงอาหารถูกวิธี หลีกหนีอาหารไขมัน หมั่นลดบริโภคเนื้อแดง เกลือแกงอาหารหมักดองต้องน้อยลง แต่ในทางปฏิบัติหลายท่านคงอยากทราบว่า รายการอาหารที่แนะนำให้กินได้บ่อยๆ…

รู้ทันมะเร็ง : หอม-กระเทียมต้านมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก 25 ก.ค. 2557           พืชในกลุ่มเครื่องเทศอันได้แก่ กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ รวมไปถึงผักที่มีกลิ่นฉุน เช่น ต้นกระเทียม ต้นหอม กุ้ยช่าย ดอกหอม ที่หลายคนอาจไม่ชอบกลิ่น จนชอบเขี่ยทิ้งเป็นประจำ แต่พืชผักกลุ่มนี้มีสรรพคุณสำคัญในการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน โดยเฉพาะอย่าง กระเทียมและหอมแดงพระเอกของเรื่องนี้                    กระเทียมเป็นพืชตระกูลหัวที่มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัวที่ใครๆ ก็รู้จัก กลิ่นฉุนของกระเทียมมีที่มาจากสารประกอบกำมะถันหรือซัลเฟอร์ที่มีชื่อว่า อลิซิน กระเทียมยังมีส่วนประกอบอื่นๆ เช่น กรดอะมิโนอาร์จีนีน ฟลาโวนอยด์ เกอร์ซิทิน และซีลีเนียม นอกจากนั้นยังมีสารไดอาลิลไดซัลไฟด์และสารไดอาลิลไตรซัลไฟด์ สารเอส-อัลลิล ซิสทีอิน บรรดาสารชื่อเรียกยากจำยากเหล่านี้มีคุณสมบัติป้องกันมะเร็งอันได้แก่ ช่วยกระตุ้นเอนไซม์ในการทำลายพิษ ยับยั้งการทำงานของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และสร้างเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย     …

รู้ทันมะเร็ง : ผักตระกูลกะหล่ำต้านมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  4 ก.ค. 2557          อาหารที่เราบริโภคอยู่ทุกวันนี้มีส่วนสัมพันธ์กับการเกิดโรคมะเร็งได้ถึง 30-50 เปอร์เซ็นต์ ในขณะเดียวกันอาหารหลายประเภทก็มีส่วนสำคัญในการป้องกันโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาพืชผักผลไม้ ธัญพืช เครื่องเทศต่างๆ วันนี้ได้โอกาสขอพูดถึงพืชตระกูลกะหล่ำ อันได้แก่ บรอกโคลี กะหล่ำดอก กะหล่ำปลี คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว หัวผักกาด ซึ่งประกอบไปด้วยสารอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์มากมายหลายชนิด แต่ที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งคือ สารชัลโฟราเฟน สารอินโดล-3-คาร์บินอล สารไอโซไธโอไซยาเนต สารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันโรคมะเร็งหลายประการ ตั้งแต่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ยับยั้งเอ็นไซม์ที่กระตุ้นสารก่อมะเร็ง ดักจับสารก่อมะเร็งและอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำลายเซลล์ปกติและทำลายดีเอ็นเอซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง ส่งเสริมเอ็นไซม์ที่ขับพิษของสารก่อมะเร็ง รักษาสมดุลของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ที่รับประทานพืชตระกูลกะหล่ำเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ และมะเร็งลำไส้ใหญ่                   แต่ถ้ามาดูพระเอกของพืชตระกูลนี้คือบรอกโคลี ยังอุดมไปด้วยสารเบตาแคโรทีน วิตามินซี…

รู้ทันมะเร็ง:สุดยอดเคล็ดลับอาหารต้านมะเร็งตอนที่1 : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  24 ก.พ. 2555          เชื่อขนมกินได้เลยว่าคงมีหลายคนที่มีอาการสับสนในชีวิตเรื่องเกี่ยวกับอาหารการกิน ทั้งอาหารที่กินแล้วห่างไกลมะเร็งและอาหารอันตรายที่สมควรอยู่ห่างๆ เพราะเต็มไปด้วยสารก่อมะเร็ง บางคนรู้แบบผิดๆ หันไปหาอาหารเสริมและวิตามินเป็นอาหารหลัก บางคนรู้มากวิตกกังวลมากเลยไม่รู้จะกินอะไรดี หวาดระแวงไปหมด ตอนนี้มีบางคนถึงขนาดไปหาซื้อที่ต่างจังหวัดแล้วจ้างชาวบ้านแถวนั้นให้ปลูกข้าวปลูกผักสวนครัวปลอดสารพิษ ส่งมาให้ครอบครัวตัวเองกิน ไม่ยอมแตะต้องพืชผักของที่อื่นเพราะกลัวจะเจอสารพิษถ้ามาจากแหล่งอื่น ที่ร้ายกว่าเพื่อนคือพวกไม่มีความรู้ไม่สนใจเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ กินอะไรก็ได้เอาแบบสะดวกเข้าว่า พวกนี้จะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมากที่สุด                   วกกลับมาเข้าเรื่องเคล็ดลับอาหารต้านมะเร็งที่ว่าสุดยอดนั้น เพราะเป็น 9 เคล็ดลับจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติที่ครอบคลุมทุกแง่ทุกมุมของอาหาร ไม่ใช่เฉพาะอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเท่านั้น แต่ยังกล่าวถึงอาหารที่ต้องหลีกเลี่ยง รวมถึงวิธีการปรุงอาหารที่ถูกวิธี ในตอนนี้จะขอเริ่มที่ 3 เคล็ดลับแรกก่อน เริ่มจาก                   กินผักหลากสีทุกวัน สีสันของผักนอกจากจะดูสวยงามแล้ว ผักแต่ละสีแต่ละชนิดยังมีประโยชน์ต่อร่างกายและให้คุณค่าที่แตกต่างกันไป ดังนั้น การรับประทานผักให้หลากหลายชนิดหรือรับประทานให้ครบทั้ง…

รู้ทันมะเร็ง : สมุนไพร(ก็)ก่อมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  11 ม.ค. 2556          สัปดาห์ที่แล้วมีข่าวฮือฮาจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ว่าตรวจพบสารก่อมะเร็งจากตำรับยาแผนไทยรวม 10 ตำรับจากบัญชียาหลักแห่งชาติที่มีส่วนผสมของสมุนไพรที่มีชื่อไม่คุ้นหูว่าไคร้เครือ ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้ไม่ได้เป็นญาติอะไรกับตะไคร้และกวาวเครือ แต่เป็นพืชไม้เถา โดยนำเอาส่วนของรากมาทำเป็นยาสมุนไพร เนื่องจากสมุนไพรที่ใช้เป็นส่วนผสมตัวจริงนับวันจะหายากขึ้น โดยสรรพคุณแล้วไคร้เครือใช้รักษาโรคพิษไข้ เป็นยาชูกำลังช่วยเจริญอาหาร ส่วนยาแผนไทยที่ถูกตัดออก 10 ตำรับก็เป็นพวกยาหอม ยาเขียว ยาธาตุ อันได้แก่ ยาหอมนวโกฐ ยาหอมแก้ลมวิงเวียน ยาหอมอินทจักร์ ยาธาตุบรรจบ ยาประสะการพลู ยาประสะเจตพังคี ยามันทธาตุ ยาวิสัมพยาใหญ่ ยาเขียวหอม และยาอำมฤควาที ที่ต้องระบุชื่อให้ชัดกันอีกครั้งก็เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ               เหตุที่เจ้าสมุนไพรไคร้เครือมีสารก่อมะเร็งเพราะมีกรดอริสโตโลคิก ซึ่งองค์การวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศจัดให้เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์มานานหลายปีเนื่องจากมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันชัดเจนแล้วว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ ไม่ว่าจะเป็นที่ไต ท่อไต และกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนั้นยังมีพิษต่อไต ตับ ต่อมหมวกไต ทำให้เกิดภาวะไตวายและในสัตว์ทดลองยังทำให้มดลูกผิดปกติและทำให้แท้งได้     …