เครดิต : คมชัดลึก 27 มิ.ย. 2557
จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งในประเทศไทยเล่มล่าสุดฉบับที่ 7 ปี 2550-2552 ที่จัดทำโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ พบว่ามะเร็งเต้านมนอกจากเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในหญิงไทยแล้ว ยังมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากช่วงปี 2547-2549 ที่เคยมีอุบัติการณ์มะเร็งเต้านมทั้งประเทศอยู่ที่ 25.6 คนต่อประชากร 100,000 คนหรือมีผู้ป่วยรายใหม่ 9,723 รายต่อปี เป็น 26.4 คนต่อประชากร 100,000 คนหรือมีผู้ป่วยรายใหม่ 10,193 ราย นอกจากนั้นจังหวัดที่พบอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมสูงสุดยังมีอุบัติการณ์ที่สูงมากขึ้นกว่าเดิม กล่าวคือจากเดิมปี 2548 กรุงเทพมหานครเป็นแชมป์อุบัติการณ์สูงสุดอยู่ที่ 38.2 คนต่อประชากร 100,000 คน เปลี่ยนเป็นจังหวัดชลบุรีที่พบมะเร็งเต้านมรายใหม่สูงที่สุดอยู่ที่ 44.2 คนต่อประชากร 100,000 คนในปี 2551
จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงมีการรณรงค์ส่งเสริมให้หญิงไทยทุกวัยหันมาใส่ใจการดูแลเต้านมของตนเองให้มากยิ่งขึ้น โดยการตรวจคัดกรองค้นหามะเร็งเต้านมในระยะเริ่มแรกในระดับประชากรนั้น เน้นที่การให้ความรู้ในการตรวจเต้านมด้วยตนเอง ตั้งแต่การดู การคลำ และการบีบ โดยเน้นการตรวจด้วยตนเองเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเริ่มพบความผิดปกติ ก็รีบไปพบแพทย์ให้ทำการตรวจเต้านมอีกครั้ง ถ้ายังไม่แน่ใจ แพทย์ก็จะส่งตรวจอัลตราซาวนด์หรือเอกซเรย์เต้านมที่เรียกว่าแมมโมแกรมเป็นลำดับต่อไป ที่สงสัยกันมากว่าทำไมไม่ให้ตรวจแมมโมแกรมฟรีกันไปเลยสำหรับหญิงไทยทุกคนนั้น ก็เป็นเพราะผลจากการศึกษาพบว่าการใช้แมมโมแกรมในตรวจคัดกรองค้นหามะเร็งเต้านมในระดับประชากรทั้งประเทศนั้น ยังไม่คุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ที่ว่าด้วยเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปเทียบกับประสิทธิผลที่ได้รับ จึงต้องใช้การตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นหลักไปก่อน
ส่วนการตรวจคัดกรองค้นหามะเร็งเต้านมในระดับปัจเจกบุคคลตามอัธยาศัยตามกำลังทรัพย์ของแต่ละคนนั้น ก็แนะนำให้ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปมาตรวจแมมโมแกรมปีละครั้ง ส่วนในรายที่มีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมก็ควรมาตรวจแมมโมแกรมให้เร็วขึ้น ก่อนถึงอายุที่ญาติคนนั้นเป็นมะเร็งเต้านมสัก 5 ปี เพราะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมมากกว่าหญิงทั่วไป
ยิ่งปัจจุบันยิ่งสะดวกใหญ่ เพราะสถาบันมะเร็งแห่งชาติ เขามีรถเอกซเรย์เต้านมแมมโมแกรมระบบดิจิทัลเคลื่อนที่ออกให้บริการแก่หน่วยงานทั้งภาครัฐภาคเอกชน ในราคาเดียวกันกับที่ตรวจที่สถาบันเอง ไม่ต้องยุ่งยากเสียเวลาเดินทางฝ่ารถติดและไม่ต้องหาที่จอดรถให้ลำบากอีกต่างหาก นอกจากนั้นภายในรถยังมีเครื่องอัลตร้าซาวน์คุณภาพสูงที่ใช้ตรวจเต้านมร่วมกับเครื่องแมมโมแกรมอีกด้วย เพราะฉะนั้นมั่นใจได้ว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในประเทศก็สามารถติดต่อเรียกใช้บริการนี้ได้ ที่สำคัญรถแมมโมแกรมเคลื่อนที่คันนี้เป็นคันเดียวในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบัน ล่าสุดยังไปให้บริการผู้ต้องขังหญิงที่ด้อยโอกาสในทัณฑสถานหญิงแบบฟรีๆ ไม่คิดค่าใช้จ่ายมาแล้วด้วยนะครับ…ขอบอก