เครดิต : คมชัดลึก 19 9.8. 2555
พอถึงเดือนตุลาคมของทุกปี วงการแพทย์ด้านโรคมะเร็งทั่วโลกมีการรณรงค์เรื่องมะเร็งเต้านมอย่างเป็นทางการ โดยใช้สัญลักษณ์โบสีชมพูเป็นเครื่องหมายสากลหมายถึงมะเร็งเต้านม มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ทั้งทางด้านการป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพ การให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ การตรวจเต้านมด้วยตนเอง การรักษาโรคมะเร็งเต้านมในระยะต่างๆ เนื่องจากในสังคมโลกตะวันตก ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เมืองไทยในเวลานี้ เพราะฉะนั้นช่วงเดือนนี้ถ้าเห็นสัญลักษณ์โบชมพูหรือสินค้าหรือการจัดกิจกรรมด้านสุขภาพที่เน้นสีชมพู ก็ช่วยให้ความสนใจกันหน่อย คุณผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไปก็ได้เวลาเข้าไปตรวจแมมโมแกรมประจำปี ส่วนคุณผู้ชายก็อย่านิ่งดูดาย ช่วยกันเตือนให้สาวใหญ่ไปตรวจด้วยก็ยิ่งดี ช่วงนี้หลายโรงพยาบาลคิดราคาลดพิเศษ เพื่อกระตุ้นและชวนเชิญให้คุณผู้หญิงหันมาใส่ใจสุขภาพเต้านมในช่วงนี้กันให้มากยิ่งขึ้น
อีกเรื่องที่มาตามคำเรียกร้องของท่านผู้อ่านแฟนๆ คอลัมน์ที่เคารพรักทั้งหลาย ที่หลายท่านอาจจะไม่สามารถติดตามอ่านคอลัมน์ “รู้ทันมะเร็ง” ได้ทุกตอนก็คือการรวบรวมเรื่องราวความรู้ด้านโรคมะเร็งในคอลัมน์นี้ลงสู่หนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ก “จับเข่าเล่ามะเร็ง” โดยมีการเพิ่มเนื้อหาสาระให้มากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ในคอลัมน์นี้ค่อนข้างจำกัด จึงต้องไปขยายความให้ครอบคลุมเนื้อหาเรื่องนั้นๆ ให้มากยิ่งขึ้น เนื้อหาในเล่มแบ่งเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนแรกว่าด้วยสารพันปัญหาที่มาของมะเร็งที่เน้นเรื่องใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความอ้วน กล่องโฟม ยาฆ่าแมลง ขยะ โทรศัพท์มือถือและอื่นๆ
ส่วนที่สอง งานเข้าเล่ามะเร็ง เป็นเรื่องมะเร็งอวัยวะต่างๆ ที่พบบ่อย ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านม รังไข่ ต่อมลูกหมาก ต่อมไทรอยด์ ตับ ตับอ่อน ท่อน้ำดี หลอดอาหาร ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมะเร็งหลังโพรงจมูก และส่วนสุดท้ายเรื่องของการป้องกันและรักษา เน้นคำถามยอดฮิตติดชาร์ตซึ่งหาอ่านจากที่อื่นไม่ได้ เช่น ปลากับผักอาหารหลักของผู้ป่วยมะเร็งจริงหรือ ชาเขียวต้านมะเร็งในคนได้จริงหรือ สมุนไพรไทยพร้อมสำหรับรักษามะเร็งแล้วจริงหรือ รักษามะเร็งแบบไหนดีเพราะปัจจุบันมีการรักษามะเร็งแบบใหม่ การรักษาทางเลือกมากมายที่ทำให้ผู้ป่วยและญาติสับสนไปตามๆ กัน โดยให้ข้อมูลแบบตรงไปตรงมาอย่างรอบด้านแบบถึงไส้ถึงพุง มิตรรักแฟนคอลัมน์สามารถหาซื้อได้ในราคาพิเศษที่บูธสำนักพิมพ์เนชั่น ในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 17 วันที่ 18-28 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ขอแนะนำว่าใครที่ไม่อยากเป็นมะเร็งต้องอ่านหนังสือเล่มนี้ เช่นเดียวกันคนที่เป็นมะเร็งแล้ว อยากรู้วิธีการรักษาและการดูแลตนเองที่ถูกต้องก็ต้องอ่านเช่นกัน และแน่นอนที่สุดผู้เขียนเน้นให้ประชาชนคนทั่วไปอ่านแล้วไม่เครียด อ่านแบบเข้าใจง่าย ชนิดที่ไม่ต้องปีนกระไดฟังหรืออ่านไปเกาหัวไป เพราะชื่อหนังสือ “จับเข่าเล่ามะเร็ง” ก็บอกอยู่แล้วนะครับว่าเป็นลักษณะคุยกันแบบเป็นกันเอ๊งกันเองจริงๆ ใครไม่เชื่อก็ไปซื้อหามาอ่านนะครับแล้วจะรู้ว่าผมพูดจริง…เชื่อผมสิ