เครดิต : คมชัดลึก 10 เม.ย. 2558
ด้วยการโฆษณาอย่างหนักหน่วงเต็มรูปแบบ ทั้งลงทุนโฆษณาในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หัวสีทุกวันอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ลงทุนโฆษณาในเว็บเพจ ถ้าลองค้นหาคำว่ามะเร็งในอินเทอร์เน็ต จะพบชื่อโรงพยาบาลของจีนโรงพยาบาลนี้เป็นชื่อแรกชื่อบนสุดเสมอ นอกจากนั้นยังมีโครงการรักษาฟรีให้ผู้ป่วยมะเร็งไทย แล้วจ้างทีวีไทยหลายต่อหลายช่องไปทำข่าวอีกด้วย ต้องยอมรับการทำการตลาดหาลูกค้าของหน่วยงานนี้ ที่สามารถโน้มน้าวเอาคนป่วยฐานะดีของบ้านเราไปรักษาได้หลายราย
ลำพังถ้าการรักษามากมายที่โฆษณากันนั้น บอกกันแบบตรงไปตรงมาไม่มีหมกเม็ด คือบอกวิธีการรักษาของโรคมะเร็งแต่ละอวัยวะที่เป็นมาตรฐานและการรักษาใดที่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย หรือการรักษาใดยังเป็นแค่การรักษาทางเลือกที่ยังไม่มีผลการรักษาที่ชัดเจนแน่นอน แต่แค่เอาตัวอย่างผู้ป่วยที่รักษาได้ผลดีมาโชว์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่ได้ผลการรักษาดีนั้นมาจากจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาวิธีนั้นทั้งหมดจำนวนเท่าไหร่ ที่สำคัญการรักษาที่คุยว่าเป็นวิธีการใหม่เอี่ยม แต่แท้ที่จริงแล้วกลับไม่มีอะไรใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการฝังแร่ไอโอดีน การใช้ความร้อน การใช้ความเย็น การใช้ยาเคมีบำบัดเฉพาะที่ การรักษาพวกนี้มีในหลายโรงพยาบาลทั้งในประเทศไทยและในหลายประเทศทั่วโลก เพียงแต่นำมาใช้ในการรักษามะเร็งของอวัยวะต่างๆ ตามการรักษามาตรฐานที่มีข้อสรุปยืนยันแล้วเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น การใช้รังสีจากภายในโดยการฝังแร่หรือสารกัมมันตรังสี เช่น อิริเดียม 192 โคบอลท์ 60 ในตำแหน่งที่เป็นมะเร็งโดยตรง ทำให้เนื้องอกได้รับปริมาณรังสีที่สูงและอวัยวะข้างเคียงได้รับรังสีน้อย วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษามะเร็งบางอวัยวะเท่านั้น เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก ไม่ได้นำมาใช้รักษามะเร็งได้ทุกอวัยวะอย่างที่โฆษณาชวนเชื่อกันไว้ แต่ถ้าจะนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งอื่นๆ จำเป็นต้องทำในรูปแบบของการรักษาแบบงานวิจัย ที่จำเป็นต้องมีการอธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจและยินยอมในการรักษารูปแบบดังกล่าว
ประเด็นสำคัญที่เป็นที่สนใจของสังคมอยู่ในเวลานี้ จนสมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาแห่งประเทศไทยต้องออกประกาศเตือนก็คือ มีผู้ป่วยโรคมะเร็งหลายรายที่กลับจากการรักษาฝังแร่ไอโอดีน 125 แบบถาวรที่ประเทศจีน ตรวจพบว่ามีปริมาณรังสีในร่างกายเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งเป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง เด็ก สตรีมีครรภ์ รวมไปถึงคนในครอบครัวและบุคลากรด้านสุขภาพที่ให้การดูแลผู้ป่วยรายนั้น โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกหลังได้รับการฝังแร่ รวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติในกรณีที่ผู้ป่วยรายนั้นเสียชีวิต การฝังศพ การเผาศพ การเก็บอัฐิ เพราะยังมีโอกาสแผ่รังสีเป็นอันตรายกับคนรอบข้างได้ ตามปกติแล้วหลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการฝังแร่ ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องแยกในโรงพยาบาล เพื่อตรวจวัดปริมาณรังสีที่แผ่ออกจากตัวผู้ป่วยว่ายังมีสูงอยู่หรือไม่ ต้องรอให้ปริมาณรังสีอยู่ในระดับปกติก่อนจึงจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลได้ ไม่ใช่ให้เดินขึ้นเครื่องบินกลับประเทศ โดยไม่ให้คำแนะนำอะไรเลยแบบนี้
สรุปก็คือนอกจากได้รับการรักษาแบบเดิมๆ ที่ยังไม่เป็นมาตรฐานในการรักษาโรคมะเร็งหลายอวัยวะแล้ว ยังมาแผ่รังสีเป็นอันตรายกับคนรอบข้างเสียอีก แบบนี้ไม่เรียกว่าถูกหลอกก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้วล่ะครับ