เครดิต : คมชัดลึก 21 ธ.ค. 2555
ปี 2555 กำลังจะผ่านไปปีใหม่กำลังจะเวียนมา นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาในรอบปีก่อนจะลืมเลือนกันไปโดยเฉพาะเรื่องราวข่าวสารมะเร็งที่สำคัญในรอบปีที่ผ่านมา
เริ่มตั้งแต่ต้นปีเดือนกุมภาพันธ์มีการวางเป้าหมายโดยสมาพันธ์ควบคุมโรคมะเร็งระหว่างประเทศตั้งธงไว้ในวันมะเร็งโลกปี 2555 ว่าต้องลดอัตราการตายจากโรคมะเร็งและโรคไม่ติดต่ออื่นๆ ให้ได้ร้อยละ 25 ภายในปี พ.ศ. 2568 หรือในอีก 13 ปีข้างหน้า ก็ยังมีเวลาอีกหลายปีที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมแรงร่วมใจกันทำเป้าหมายให้เป็นจริง ตามด้วยช่วง เดือนมีนาคม เรื่องเดิมๆ ที่ภาคเหนือของไทยต้องผจญกับสถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมหลายจังหวัดในภาคเหนือจากการเผาป่าเผาไร่เลื่อนลอยก่อนลงมือปลูกใหม่ ซึ่งนับวันปัญหานี้จะเริ่มลุกลามบานปลายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนจะเป็นปัญหาระดับภูมิภาคเข้าไปทุกที ผลกระทบต่อสุขภาพแบบเรื้อรังที่น่ากลัวจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดซึ่งเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในภาคเหนือ
เพราะนอกจากฝุ่นละอองแล้วยังมีสารพิษที่เป็นสารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้คือสารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนหรือสารพีเอเอช ถ้าหากปล่อยให้สถานการณ์หมอกควันแย่ลงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องห่วงเลยว่าตัวเลขคนเป็นมะเร็งปอดในภาคเหนือจะเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน เดือนมีนาคมเช่นกันก็มีเรื่องพบสารก่อมะเร็งคือสาร 4-เมธิลอิมิดาโซลในน้ำอัดลมน้ำดำยี่ห้อหนึ่งในสหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นเรื่องน่ายินดีที่ทางบริษัทยินยอมเปลี่ยนสูตรส่วนผสมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วกกลับมาเมืองไทยข่าวกองขยะส่งกลิ่นรบกวนตำรวจและชาวบ้านแถวฉลองกรุงช่วงเดือนพฤษภาคม ซึ่งพบว่ามีสารพิษอันตราย 4 ตัวที่เป็นสารก่อมะเร็งมีระดับสูงเกินค่ามาตรฐาน 2 ตัวที่สำคัญคือสารไวนิลคลอไรด์เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ทั้งมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งสมองและมะเร็งระบบเม็ดเลือดระบบน้ำเหลืองและสารเบนซีนเป็นสารก่อมะเร็งเม็ดเลือดขาวในคนเช่นกัน ไม่ใช่ว่ากลิ่นขยะที่รบกวนสุขภาพจะก่อให้เกิดมะเร็งปอดได้อย่างเดียว
พอช่วงกลางปีองค์การวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศได้ออกประกาศยกระดับความอันตรายจากควันไอเสียของเครื่องยนต์ดีเซลให้เป็นสารก่อมะเร็งในคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีหลักฐานทางการแพทย์ พบว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปอดและมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นปัญหามลภาวะจากเครื่องยนต์ดีเซลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สังคมไทยไม่ควรมองข้ามด้วยเช่นกัน เดือนกันยายนก็มีข่าวเอาใจคุณแม่บ้านจากผลงานวิจัยที่ประเทศอังกฤษเรื่องการทำงานบ้าน การทำสวนหรือการเดินจูงสุนัขก็ช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน ตบท้ายด้วยล่าสุดเดือนพฤศจิกายน ข่าวพบสารก่อมะเร็งในเครื่องปรุงบะหมี่สำเร็จรูปสัญชาติเกาหลีใต้หลายยี่ห้อ ก็ได้รับการตรวจยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขบ้านเราเรียบร้อยแล้วว่าปลอดภัยไร้สารก่อมะเร็งอย่างที่เป็นข่าว
ในบรรยากาศส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ช่วงนี้ หลายท่านกำลังทรมานสุขภาพตัวเองด้วยการบริโภคสารพัดอาหารไขมันสูง บุหรี่ แอลกอฮอล์ ก็บันยะบันยังกันบ้างนะครับ เดี๋ยวเกิดเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายขึ้นมาอดเคานท์ดาวน์ฉลองปีใหม่ไม่รู้ด้วยนะ…ขอบอก