เครดิต : คมชัดลึก 30 ธ.ค. 2554
ในโอกาสที่ปีเก่ากำลังจะผ่านไปปีใหม่กำลังจะเวียนมา นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มาทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาในรอบปีก่อนจะลืมเลือนกันไป อย่างที่ใครหลายคนมักพูดอยู่เสมอว่าคนไทยลืมง่าย แต่ปีนี้เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่คงยากที่จะลืม เพราะคนไทยจำนวนมากบอบช้ำกับเหตุการณ์มหาอุทกภัย ประสพกับความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เสียขวัญเสียสุขภาพจิต ตื่นตระหนกหวาดระแวงกันไปทั่ว อาจกล่าวได้ว่าเหตุการณ์มหาอุทกภัยครั้งนี้เปลี่ยนวิธีคิดของคนไทยในหลายๆ เรื่อง อย่างน้อยที่สุดหากมองให้เป็นโอกาสก็คือการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ความพยายามในการป้องกันบ้านเรือนทรัพย์สินและความมีสติดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทมากขึ้น ก็หวังว่าพวกเราคนไทยจะหันมาปรับใช้วิธีคิดอย่างที่ว่ามากับเรื่องสุขภาพ เรื่องโรคมะเร็ง ถ้าเอาใจใส่ดูแลสุขภาพตนเองมากขึ้น โอกาสที่จะเป็นโรคร้ายก็จะน้อยลงหรือหากเป็นก็เป็นในระยะเริ่มต้น โอกาสรักษาหายขาดก็มีมากขึ้นเช่นกัน
เหตุการณ์สำคัญด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งในปี 2554 ที่สังคมให้ความสนใจ ก็มีเรื่องการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีหลังเหตุการณ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นช่วงต้นเดือนมีนาคม เตือนกันอีกครั้งว่ามะเร็งเม็ดเลือดขาวหรือลูคีเมียพบได้บ่อยที่สุดในบรรดามะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการได้รับรังสีและมักเกิดขึ้นเร็วภายในเวลา 2-3 ปี ส่วนมะเร็งอื่นๆ เช่น มะเร็งของต่อมไทรอยด์ มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดมัลติเพิล มัยอิโลมา มะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะอาหาร ก็มีโอกาสเป็นในช่วง 10-15 ปีหลังได้รับรังสี เรื่องของโทรศัพท์มือถือกับมะเร็งสมองก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แม้ว่าองค์การวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศจะออกมาเตือนว่า ผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือมากกว่า 30 นาทีต่อวันนานติดต่อกันกว่า 10 ปี มีความเสี่ยงในการเกิดเนื้องอกในสมองชนิดไกลโอมามากกว่าปกติ 40% ก็ตาม
อีกเรื่องที่ดังไม่แพ้กันคือการจากไปของเจ้าพ่อวงการไอทีอย่างสตีฟ จ็อบส์จากมะเร็งตับอ่อนหลังต่อสู้กันมาหลายปี ในบ้านเราคาดว่าปี 2554 โรคมะเร็งก็ยังคงเป็นเพชรฆาตมือวางอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตคนไทยแต่ละปีไปมากที่สุดเช่นเคย แต่ที่สำคัญคือแนวโน้มของโรคมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศที่พัฒนาแล้วก็เริ่มพบมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทย ที่เห็นเด่นชัดคือ มะเร็งเต้านมที่มาแรงแซงหน้ามะเร็งปากมดลูกแชมป์เก่าตลอดกาล มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่พบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมะเร็งของอวัยวะทั้งสองมีความสัมพันธ์กับการใช้ชีวิตแบบคนรุ่นใหม่สไตล์ตะวันตกอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดี ถึงปีนี้จะมีเรื่องไม่ดีมากมายหลายเรื่องก็ตาม แต่ก็เป็นปีมหามงคลที่พสกนิกรคนไทยทั้งชาติร่วมกันแสดงพลังความจงรักภักดีในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ก็อย่าลืมน้อมนำเอาพระบรมราชดำรัสใส่เกล้าใส่กระหม่อมไปปฏิบัติกันอย่างจริงจังในปีหน้าและปีต่อๆ ไปด้วยนะครับ