เครดิต : คมชัดลึก 13 มิ.ย. 2557
เดือนมิถุนายนเดือนนี้ในต่างประเทศ เขาจัดให้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์สุขภาพของเพศชาย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ มีการจัดกิจกรรมประเภทต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องมาปีนี้เป็นปีที่ 10 แล้ว เพื่อให้คุณผู้ชายทุกวัยตื่นตัวเอาใจใส่ดูแลสุขภาพกันให้ดีมากยิ่งขึ้น ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันโรค การให้ความรู้ โดยบางประเทศจัดรณรงค์เป็นพิเศษทั้งสัปดาห์ มีการใช้สีฟ้าเป็นสัญลักษณ์ของการรณรงค์ทั่วทั้งประเทศ
การรณรงค์สุขภาพเพศชายเริ่มจากการส่งเสริมสุขภาพโดยรวม ตั้งแต่การรับประทานอาหารหลากหลายหมู่ที่ดีต่อสุขภาพอย่างเพียงพอ ไม่กินอาหารจนอิ่มเกิน เน้นการบริโภคผักและผลไม้ในทุกมื้ออาหาร การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ โดยเลือกกิจกรรมที่ไม่น่าเบื่อและสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง การเล่นกับลูกหลาน การเดินขึ้นบันไดให้เป็นนิสัย การทำสวน เรียกง่ายๆ ว่ามีกิจกรรมที่ให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวบ่อยๆ กว่าที่เคยเป็น ไม่จำเป็นต้องเป็นกีฬาที่เป็นทางการเสมอไป เน้นการป้องกันโรค การตรวจสุขภาพเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ โดยเน้นการตรวจความดันโลหิต ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด การตรวจต่อมลูกหมาก จากสถิติพบว่าเพศหญิงมีความใส่ใจมาตรวจสุขภาพประจำปีมากกว่าเพศชาย นอกจากนั้นยังเน้นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในเพศชายสูงวัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน เบาหวาน โรคซึมเศร้า โรคความดันโลหิตสูงและอีกมากมายหลายโรค รวมไปถึงโรคมะเร็งด้วยเช่นกัน
จากสถิติหลายประเทศพบว่าเพศชายเป็นมะเร็งมากกว่าเพศหญิง กล่าวคือ 1 ใน 2 ของผู้ชายเป็นมะเร็ง ในขณะที่เพศหญิงพบน้อยกว่าเพียง 1 ใน 3 ของจำนวนผู้หญิงทั้งหมด การรณรงค์มะเร็งในเพศชายให้ความสำคัญไปที่มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอัณฑะ มะเร็งองคชาต และมะเร็งเต้านมในเพศชาย โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมากที่พบบ่อยกว่าอีก 3 มะเร็งข้างต้น และเป็นปัญหามะเร็งที่สำคัญของประเทศโลกตะวันตก ทั้งที่ในเดือนกันยายนของทุกปีก็มีการรณรงค์เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากเป็นการเฉพาะอยู่แล้ว โดยเน้นให้ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไปไม่ต้องรอให้มีปัญหาปัสสาวะลำบาก มาพบแพทย์ให้ตรวจตั้งแต่ยังไม่มีอาการ สำหรับประเทศไทยเรา มะเร็งต่อมลูกหมากแม้จะพบไม่มากปีละประมาณ 2,400 คน พบบ่อยเป็นอันดับ 4 เป็นรองจากมะเร็งตับและทางเดินน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ที่พบบ่อยในเพศชายเป็นอันดับ 1,2,3 ตามลำดับ ส่วนอันดับที่ 5 คือมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
ก่อนจากต้องฝากผู้อ่านไว้ว่า เรื่องสุขภาพเพศชายไม่ใช่เรื่องของคุณผู้ชายเพียงอย่างเดียว แต่มีผลกระทบกับทุกคนในครอบครัว เพราะผู้ชายเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของทุกคนในครอบครัวต้องคอยตักเตือน คอยเอาใจใส่ดูแลสุขภาพซึ่งกันและกันนะครับ…เชื่อผม