เครดิต : คมชัดลึก 24 พ.ค. 2556
กรุงเทพเมืองฟ้าอมร ทุกวันนี้นอกจากอากาศจะร้อนอบอ้าวแล้ว ยังเต็มไปด้วยฝุ่นละอองมากขึ้นทุกวัน คนที่มีบ้านเรือนอยู่ติดถนนใหญ่จะรู้ดี แต่ที่สำคัญนอกจากอากาศที่ร้อนขึ้นและฝุ่นที่เยอะขึ้นแล้ว สารก่อมะเร็งยังปลิวว่อนตามสามแยกสี่แยกเต็มถนนหนักกว่าเดิมอีกด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้มีผลงานวิจัยของศูนย์วิจัยและพัฒนาการป้องกันและจัดการภัยพิบัติ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์หรือนิด้า ซึ่งนำข้อมูลตัวอย่างค่าฝุ่นละอองในอากาศขนาดไม่เกิน 10 ไมครอนของกรมควบคุมมลพิษ จากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทั้ง 7 สถานีในกรุงเทพ อันได้แก่ การเคหะชุมชนดินแดง สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย 4 การไฟฟ้าย่อยธนบุรี โรงเรียนบดินทรเดชา โรงเรียนสิงหราชพิทยาคม การเคหะชุมชนคลองจั่น และโรงเรียนนนทรีวิทยา โดยมีระยะเวลาตั้งแต่ปี 2549 -2552 มาวิเคราะห์หาสารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอนหรือสารพีเอเอช ซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ที่สำคัญคือเจ้าสารพีเอเอชที่ว่าเป็นกลุ่มของสารก่อมะเร็งที่มีสมาชิกมากมายหลายตัวไม่ต่ำกว่า 18 ตัว แต่ตัวที่ร้ายกาจก็เช่น สารเบนโซเอไพรีน ซึ่งพบในควันบุหรี่ด้วย
ผลงานวิเคราะห์พบว่า ย่านการเคหะชุมชนดินแดง ครองแชมป์มีสารก่อมะเร็งพีเอเอชมากกว่าอีก 6 แห่ง รองลงมาคือสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย 4 ที่ลดหลั่นกันไปจากมากไปน้อยก็ไล่จากการไฟฟ้าย่อยธนบุรี โรงเรียนบดินทรเดชา โรงเรียนสิงหราชพิทยาคม การเคหะชุมชนคลองจั่น และย่านโรงเรียนนทรีวิทยาที่มีระดับสารก่อมะเร็งพีเอเอชต่ำที่สุด ที่ไม่น่าแปลกใจก็คือสถานีที่อยู่ใกล้ถนนใหญ่มีระดับสารก่อมะเร็งพีเอเอชสูงกว่าสถานีที่อยู่ห่างออกไป แต่คนที่อยู่แถวคลองจั่นหรือช่องนนทรีก็อย่าเพิ่งดีใจ เพราะทั้ง 7 แห่งมีระดับสารก่อมะเร็งสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานของประเทศอังกฤษ โดยที่แต่ละประเทศตั้งค่าระดับมาตรฐานไว้แตกต่างกัน ส่วนของไทยเรายังไม่มีการตั้งระดับมาตรฐานของสารนี้แต่อย่างใด
ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยหาสารเบนโซเอไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ในกลุ่มพีเอเอช พบว่า กรุงเทพมหานครของเราอยู่ในอันดับที่ 13 ของทวีปเอเชีย โดยอันดับต้นๆ เป็นเมืองในประเทศจีน อินเดีย ตุรกี ไต้หวัน และเกาหลี โดยที่ทวีปเอเชียเป็นทวีปที่มีสารก่อมะเร็งในอากาศเกินค่ามาตรฐานมากที่สุด รองลงมาคือ อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกา พี่ไทยเราก็อย่าพึ่งดีใจนะครับ เพราะ ผลงานวิจัยล่าสุดมันสวนทางกับความน่าจะเป็นที่สารก่อมะเร็งในท้องถนนกรุงเทพบ้านเรามันควรจะลดลงเพราะรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกสู่ท้องตลาดก็ใช้แก๊สโซฮอล์กันหมดแล้ว แต่คงเป็นเพราะจำนวนรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล รถยนต์เก่าก็ยังวิ่งปล่อยควันดำกันแบบไม่มีวันหมดอายุแบบนี้ มิหนำซ้ำต้นไม้ที่จะช่วยกรองฝุ่นดูดพิษทั้งบนเกาะกลางถนนและริมถนนก็มีน้อย ที่มีอยู่ก็ถูกตัดซะเหี้ยนอีก ระดับสารก่อมะเร็งในท้องถนนกรุงเทพถึงได้สูงอย่างนี้ ใครที่บ้านอยู่แถวริมถนนที่รถติดมากๆ ก็ดูแลตัวเองให้ดีนะครับ…ขอบอก