เครดิต : คมชัดลึก 7 ก.พ. 2557
วันนี้ขอถือโอกาสเขียนถึงเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งของการจัดการเรื่องโรคมะเร็งที่ไม่ค่อยจะมีโอกาสพูดถึง เนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทะเบียนมะเร็งนานาชาติแห่งทวีปเอเชียในวันที่ 6-7 กุมภาพันธ์นี้ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์เป็นเจ้าภาพร่วมกับ 3 องค์กรหลักด้านโรคมะเร็ง คือองค์กรวิจัยโรคมะเร็งระหว่างประเทศ สมาคมทะเบียนมะเร็งระหว่างประเทศ และสมาคมป้องกันโรคมะเร็งแห่งเอเชียแปซิฟิก โดยมีวิทยากรและผู้เข้าร่วมประชุมจากทุกมุมโลก
ก่อนอื่นมารู้จักการทำทะเบียนมะเร็งกันก่อนดีกว่า จากการที่โรคมะเร็งเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของทุกภูมิภาคทั่วโลก ส่งผลให้ประชากรเสียชีวิตก่อนวัยอันควร และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาเป็นจำนวนมาก องค์การอนามัยโลกจึงสนับสนุนให้ทุกประเทศจัดทำแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็ง โดยการทำทะเบียนมะเร็งถือเป็นกลยุทธ์พื้นฐานที่สำคัญในแผนการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็ง เนื่องจากทะเบียนมะเร็งเป็นแหล่งรวมข้อมูลโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ในแต่ละพื้นที่ตลอดจนอุบัติการณ์การเกิดโรคและการเสียชีวิต ซึ่งข้อมูลดังกล่าวมีความสำคัญในการทราบถึงปัญหาโรคมะเร็งในแต่ละท้องถิ่นที่มีความแตกต่างกัน ที่สำคัญจะนำไปสู่การวางแผนการจัดการมะเร็งที่พบบ่อยในพื้นที่นั้นๆ อย่างเป็นระบบมากกว่าการนำข้อมูลทะเบียนมะเร็งของพื้นที่อื่นมาใช้วางแผนในการแก้ปัญหา
เมื่อทุกพื้นที่มีการทำทะเบียนมะเร็งอย่างมีคุณภาพก็จะนำไปสู่การกำหนดนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ด้านโรคมะเร็งของประเทศในภาพรวมชนิดที่เกาถูกที่คันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผนการป้องกัน แผนการตรวจคัดกรองมะเร็งในระยะเริ่มต้น แผนการวินิจฉัยและการรักษา และแผนการทำวิจัยด้านโรคมะเร็ง ดังนั้นการทำทะเบียนมะเร็งจึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญอย่างยิ่งทั้งการทำทะเบียนมะเร็งในระดับโรงพยาบาลและในระดับประชากร
วกกลับมาที่ประเทศไทยเรามีการทำทะเบียนมะเร็งมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2519 โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติเป็นเจ้าภาพหลัก นับว่าบ้านเราเป็นผู้นำประเทศแรกๆ ในภูมิภาคอาเซียนที่ประสบความสำเร็จในการทำทะเบียนมะเร็งระดับประเทศ และได้เผยแพร่ข้อมูลในโกลโบแคนซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลทะเบียนมะเร็งของทุกประเทศทั่วโลก และในแผนยุทธศาสตร์การป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งระดับชาติฉบับล่าสุด ยังเร่งผลักดันให้มีการทำทะเบียนมะเร็งให้ครอบคลุมทุกโรงพยาบาลทุกเขตบริการสุขภาพทั้ง 12 เขตทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพของการทำทะเบียนมะเร็งให้ถูกต้องตามมาตรฐานในระดับสากลมากยิ่งขึ้น
อีกแค่ปีเศษๆ ประเทศไทยเราก็จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนกันแล้ว แต่ตอนนี้ในบ้านเรายังทะเลาะกันไม่เลิกจนประเทศอื่นที่เคยสู้เราไม่ได้เขาขึ้นมาแซงหน้าเราไปหลายเรื่องแล้วแต่เรื่องความก้าวหน้าของการบริหารจัดการด้านโรคมะเร็ง โดยเฉพาะเรื่องการทำทะเบียนมะเร็งในระดับประชากรของบ้านเรา ไม่เป็นสองรองใครนะครับ…ขอบอก