เครดิต : คมชัดลึก 24 มิ.ย. 2554
ข่าวการจับกุมผู้ประกอบการชำแหละซากไก่ผิดกฎหมายที่ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำเอาผู้คนเลิกบริโภคไก่ไปพักใหญ่ เพราะเริ่มไม่มั่นใจว่าอาหารที่มีเนื้อไก่เป็นส่วนประกอบ จะมีเนื้อไก่ที่ชำแหละจากซากไก่ที่ตายแล้วผ่านกรรมวิธีทำให้ดูดีด้วยการใช้ดินประสิวและฟอร์มาลินอยู่บ้างหรือเปล่า แม้ว่าทางกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาให้ความรู้แก่ผู้บริโภคในการเลือกซื้อไก่ที่ถูกสุขอนามัยแล้วก็ตาม ก็อดเป็นห่วงชาวบ้านตามหมู่บ้านที่ห่างไกลที่ซื้อเนื้อไก่จากรถปิกอัพเร่ขายกับข้าวมิได้ เพราะไม่มีทางเลือกอื่น ที่น่าวิตกกว่านั้น ก็คือผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อไก่ที่ยากจะแยกแยะได้ว่าจะมีเนื้อไก่พันธุ์อย่างว่าผสมอยู่บ้างหรือไม่
ฟอร์มัลดีไฮด์และฟอร์มาลินเป็นสารเคมีตัวเดียวกัน แต่อยู่ในสถานะต่างกัน ถ้าเป็นของเหลวเรียกว่า “ฟอร์มาลิน” หรือน้ำยาดองศพที่เราคุ้นเคย ถ้าสถานะเป็นก๊าซก็เรียกว่า “ฟอร์มัลดีไฮด์” ทั้งสองตัวมีกลิ่นฉุนแสบจมูก ส่วนใหญ่นำไปใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก ไม้อัด โฟม การฟอกหนัง ในบ้านเราเคยมีข่าวว่าเอาอาหารทะเล ผักผลไม้มาแช่ฟอร์มาลินเพื่อรักษาสภาพอาหารให้ดูสดใหม่เน่าเสียช้า สารตัวนี้จัดเป็นวัตถุอันตราย ห้ามใช้ในอาหารโดยเด็ดขาด หากได้รับสารนี้เข้าสู่ร่างกายทางการหายใจจะเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ทางการกินจะเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดแสบท้อง ท้องเสีย นอกจากนั้นยังทำลายระบบประสาท ส่วนกลางและเซลล์สืบพันธุ์ ทำให้เป็นหมันได้
องค์การวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศจัดให้ฟอร์มัลดีไฮด์เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ตั้งแต่ปี 2006 จากงานวิจัยในอดีตพบว่าฟอร์มัลดีไฮด์มีความสัมพันธ์กับมะเร็งโพรงจมูก มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งสมองและ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ปัจจุบันมีหลักฐานจากการวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าฟอร์มัลดีไฮด์เป็นสาเหตุของ การเกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิด myeloid leukemia อย่างมีนัยสำคัญ
อันที่จริงก่อนหน้านี้ราวเดือนเมษายนที่ผ่านมาก็มีการจับกุมโรงงานชำแหละซากไก่ผิดกฎหมายแถวโคราชมาแล้ว แต่ผ่านไปไม่ทันไรก็กลับมาทำกันใหม่อีก คงเป็นเพราะมีพ่อค้ามาขอซื้อซากไก่พวกนี้ถึงฟาร์มให้ราคาดีตัวละ 3 บาท ยังไงก็ดีกว่าต้องไปฝังเอง ปัญหานี้เลยยังแก้ไม่จบเสียที พอเจ้าหน้าที่ย่อหย่อนก็กลับมาทำกันใหม่อีก น่าจะมีการออกกฎหมายกำหนดให้โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ต้องรับซื้อซากไก่จากเกษตรกรไปทำลายอย่างถูกวิธี จะให้ราคากันเท่าไหร่ก็ว่ากันไป แต่ยังไงก็ขอให้ราคาสูงกว่าราคาของพวกรับซื้อแบบผิดกฎหมาย จะเอาซากไก่ไปทำลายหรือแปรสภาพเป็นอาหารสัตว์ก็สุดแท้แต่ แต่ขอให้ทำอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน ผู้บริโภคจะได้บริโภคไก่กันอย่างสนิทใจเสียที
ข่าวซากไก่ผ่านไปไม่เท่าไร ก็มีข่าวพบซากงูเหลือมนับร้อยกระสอบแถว จ.เพชรบูรณ์ ขึ้นมาอีก เห็นว่าเอาเนื้องูเหลือมไปผสมกับเนื้อสัตว์อื่นแล้วไปทำลูกชิ้นเพื่อลดต้นทุนและยากที่ผู้บริโภคจะแยกแยะได้ ที่สำคัญไม่รู้ว่าใส่สารอะไรอย่างอื่นที่เป็นสารก่อมะเร็งเข้าไปอีกรึเปล่า เจอข่าวแบบนี้บ่อยๆ ก็ชักจะไม่ค่อย มั่นใจกับการบริโภคอาหารประเภทเนื้อสัตว์หรือพวกผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์แปรรูป เพราะไม่รู้ว่ามีเนื้อสิงสาราสัตว์อะไรอยู่ในนั้นบ้าง ต่อไปจะเจอซากตัวอะไรเข้าอีกบ้างก็ไม่รู้ ทำเอาบางคนเลิกกินเนื้อสัตว์หันไปกินมังสวิรัติให้รู้แล้วรู้รอดไป เอาเป็นว่ายุคข้าวยากไข่แพงแบบนี้จะกินอะไรก็ใส่ใจพิจารณากันให้มากขึ้นกว่าเดิมนะครับ…ขอบอก