เครดิต : คมชัดลึก 9 ต.ค. 2558
ย่างเข้าเดือนตุลาคมปลายฝนต้นหนาว เดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านม ถือโอกาสเตือนคุณผู้ชายทั้งหลาย เพราะหลายคนยังคิดว่าผู้ชายอย่างเราไม่มีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านมแน่นอน แต่แท้จริงแล้วมีโอกาสเป็นเช่นเดียวกัน เพียงแต่พบได้น้อยกว่าเท่านั้น
จากสถิติพบว่าโดยทั่วไปเพศชายมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งเต้านมตลอดอายุขัยอยู่ที่ 1 ใน 1,000 ในประเทศสหรัฐอเมริกาปี 2558 คาดการณ์ว่ามีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมเพศชายรายใหม่ 2,350 คน น้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด เสียชีวิต 440 ราย ในขณะที่เพศหญิงเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมอยู่ที่ประมาณ 40,000 รายต่อปี โดยอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเต้านมในเพศชายค่อนข้างคงที่ในช่วง 30 ปี ในขณะที่อุบัติการณ์ในเพศหญิงมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพศหญิงพบมากกว่าเพศชายประมาณ 100 เท่า ในเพศชายนั้นพบบ่อยในช่วงอายุ 60-70 ปี โดยพบว่าผู้ชายที่เป็นมะเร็งเต้านมมีอายุเฉลี่ยมากกว่าผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม 7-8 ปี
ส่วนปัจจัยเสี่ยงก็เช่น เคยได้รับการฉายรังสีบริเวณหน้าอก มีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว พบว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยมีประวัติมะเร็งเต้านมในครอบครัว โดยจะเป็นญาติทางฝ่ายชายหรือหญิงก็ได้ ปัจจัยที่เชื่อว่าเป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งเต้านมในเพศชายก็ไม่ต่างจากเพศหญิง นั่นคือการมีระดับฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนสูงกว่าปกติ โดยเฉพาะกลุ่มอาการที่ชื่อเรียกยากว่า กลุ่มอาการคลายน์เฟลเทอร์ ซึ่งมีความผิดปกติของดีเอ็นเอคือมีดีเอ็นเอของเพศหญิงเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เกิด ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงและระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำลง ทำให้มีลักษณะเหมือนเพศหญิง ผู้ชายที่เป็นกลุ่มอาการนี้จะมีความสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ช่วงไหล่แคบกว่าช่วงเอว มีเต้านมใหญ่ ลูกอัณฑะเล็กและเป็นหมันจากการไม่มีตัวอสุจิหรือมีตัวอสุจิน้อยมาก กลุ่มอาการนี้พบได้ไม่บ่อยคือพบประมาณ 1 ใน 1,000 คน นอกจากนั้นภาวะอื่นๆ ที่ทำให้มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติ เช่น ตับแข็ง ที่ทำให้ผู้ชายนักดื่มมีเต้านมใหญ่กว่าผู้ชายปกติ เนื่องจากตับเสื่อมสภาพลงไม่สามารถทำลายฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ตามปกติ ส่วนสาเหตุอื่นๆ ก็เช่น ภาวะอ้วนน้ำหนักเกิน ยาบางตัวที่มีผลข้างเคียงทำให้เต้านมใหญ่ขึ้น เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูง ยารักษาต่อมลูกหมากโต เป็นต้น
อาการที่พบบ่อยที่สุดคือคลำเจอก้อนที่เต้านม โดยเฉพาะบริเวณใต้หัวนม อาการอื่นๆ ก็ไม่แตกต่างจากในเพศหญิงได้แก่ มีของเหลวออกจากหัวนมเป็นน้ำปนเลือด หัวนมบอด เต้านมหรือหัวนมแดงหรือมีผื่นหรือแผลเรื้อรังบริเวณหัวนม โดยส่วนใหญ่มักมาพบแพทย์ในระยะที่เป็นมากแล้ว ส่วนอัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยชายไม่แตกต่างจากเพศหญิงแต่อย่างใด
ก่อนจากต้องฝากถึงชายผู้สูงอายุเพราะอาจจะไม่ค่อยได้สนใจสังเกตความผิดปกติของเต้านมตนเองและที่สำคัญเป็นช่วงที่พบมะเร็งเต้านมได้บ่อยที่สุด อย่าคิดว่าผู้ชายไม่มีเต้านม จริงๆ แล้วเพศชายก็มี แต่เนื้อเยื่อของเต้านมน้อยกว่า เพราะฉะนั้นผู้ชายสูงวัยต้องคอยสังเกตความผิดปกติของเต้านมและตรวจเต้านมตนเองด้วยเช่นกันนะครับ…ขอบอก