เครดิต : คมชัดลึก 1 เม.ย. 2559
ช่วงนี้มีดารานักแสดงหลายท่านออกมาเปิดตัวอย่างไม่อายว่า ตนเองเป็นมะเร็งอวัยวะนั้นอวัยวะนี้กันมากขึ้น จนกลายเป็นที่สนใจของแฟนๆ และประชาชนทั่วไปมากกว่าแต่ก่อน ว่าทำไมช่วงนี้ดาราศิลปินจึงเป็นมะเร็งกันมากขึ้น หรืออาชีพนี้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูงกว่าอาชีพอื่น
จริงๆ แล้วอาชีพดารานักแสดงนั้นไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูงกว่าอาชีพอื่นแต่อย่างใด แต่อาจมีปัจจัยเสี่ยงในแง่ของการใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงมากกว่าอาชีพอื่น โดยเฉพาะบรรดาศิลปินคิวทองที่มีงานมากๆ เช่น การทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ กินอาหารขยะ อาหารไขมันสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาตรวจสุขภาพ ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทุกคนทุกอาชีพไม่ควรปฏิบัติ แต่ทุกครั้งที่มีข่าวดาราเป็นมะเร็ง สังคมจะให้ความสนใจเรื่องสุขภาพเรื่องโรคมะเร็งกันมากขึ้น อาจจะได้ผลดีกว่าการรณรงค์ตามรูปแบบปกติเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกจากกำลังใจที่ไหลหลากมาจากทั่วทุกสารทิศแล้ว ยังเป็นบทเรียนชีวิตจริงที่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับพี่น้องประชาชน ให้หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น
ในส่วนของ อาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าอาชีพอื่น เนื่องมาจากการได้รับสารเคมีหรือสารก่อมะเร็งจากสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานมากกว่าอาชีพอื่นนั้น ก็เช่น อาชีพเกี่ยวกับการทำผ้าเบรก คลัชต์ ฉนวนกันความร้อน ฝ้าเพดาน มีความเสี่ยงกับมะเร็งปอดและมะเร็งเยื่อหุ้มปอดจากการสัมผัสแร่ใยหินหรือแอสเบสตอส อาชีพเกี่ยวกับการทำโรงโม่หิน ทำแก้ว กระดาษทราย พ่นทราย ปูนซีเมนต์ มีความเสี่ยงกับมะเร็งปอดจากการสัมผัสสารซิลิก้า อาชีพเกี่ยวกับการผลิตยาหอมยาหม้อ สารเคมีกำจัดสัตว์กัดแทะ มีความเสี่ยงกับมะเร็งผิวหนัง มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ มะเร็งไตจากการสัมผัสสารหนู อาชีพเกี่ยวกับเกษตรกรรม ที่ต้องใช้สารเคมีกำจัดแมลง ศัตรูพืชในกลุ่มออร์กาโนคลอรีน เช่น ดีดีที เอนโดซัลแฟน ก็มีความเสี่ยงกับมะเร็งเต้านม เป็นต้น เพราะฉะนั้นนายจ้างผู้ประกอบกิจการก็ต้องจัดการเรื่องสภาพแวดล้อมให้อากาศถ่ายเท ในขณะที่ลูกจ้างที่ทำงานก็ต้องใส่เครื่องป้องกันและหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้นกว่าอาชีพอื่นๆ ที่สำคัญต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพตามกำหนดอย่างเคร่งครัด
ปิดท้ายด้วยการให้กำลังใจกับศิลปินดาราทุกท่านให้สามารถเอาชนะโรคมะเร็งร้ายให้ได้กันทุกคน ในขณะเดียวกันก็ต้องขอขอบคุณดาราทุกท่านที่ออกมาแสดงตัวอย่างเปิดเผยว่าตนเองเป็นโรคนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ที่ดีในการใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทสำหรับคนทั่วไป ศิลปินดาราในต่างประเทศหลายคนที่หายขาดจากโรคมะเร็ง เขายอมอุทิศตนมาเป็นทูตรณรงค์ต้านภัยมะเร็งในประเทศเขาโดยไม่คิดค่าตัว บ้านเราถ้ามีแบบนี้บ้างก็น่าชื่นชมมากนะครับ