เครดิต : คมชัดลึก 4 ก.ย. 2558
แม้ว่าโรคมะเร็งจะเป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่งของคนไทยเราต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2542 แต่สถิติโรคมะเร็งล่าสุดของบ้านเราปี 2554 มีแนวโน้มที่ดีขึ้น
ประการแรกอัตราผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ในทั้ง 2 เพศมีแนวโน้มลดลงกล่าวคือ ในเพศชายมีอัตราผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 143.3 รายต่อประชากรหนึ่งแสนราย ลดลงกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนหรือปี 2551 ที่พบมะเร็งรายใหม่อยู่ที่ 156.7 รายต่อประชากรหนึ่งแสนราย ส่วนในเพศหญิงมีอัตราผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 131.9 รายต่อประชากรหนึ่งแสนราย ลดลงกว่าในปี 2551 ที่พบมะเร็งรายใหม่อยู่ที่ 138.2 รายต่อประชากรหนึ่งแสนราย หรือเท่ากับผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ 112,392 คนต่อปี แบ่งเป็นชาย 54,586 คน และหญิง 57,586 คน แม้ว่าจำนวนผู้หญิงที่เป็นมะเร็งรายใหม่จะพบมากกว่า ตามจำนวนประชากรเพศหญิงบ้านเราที่มีมากกว่าเพศชาย แต่ผู้ป่วยมะเร็งเพศชายกลับเสียชีวิตมากกว่า คือเสียชีวิตปีละ 36,662 คนและ 26,610 คน ในเพศชายและเพศหญิงตามลำดับ เรียกว่าผู้ชายเป็นน้อยคนกว่าแต่เสียชีวิตมากกว่าผู้หญิงปีละประมาณ 10,000 คน เหตุเพราะผู้ชายส่วนใหญ่เป็นมะเร็งตับและมะเร็งปอด ซึ่งความรุนแรงของโรคมากกว่ามะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกที่พบบ่อยในเพศหญิง
เมื่อมาพิจารณาแนวโน้มของมะเร็งแต่ละอวัยวะพบว่า มะเร็งที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องคือ มะเร็งปากมดลูก เช่นเดียวกับมะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอดก็มีแนวโน้มที่ลดลงเช่นเดียวกัน ส่วนมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักยังทรงๆ ค่อนข้างคงที่ ส่วนมะเร็งที่น่าเป็นห่วงและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ มะเร็งเต้านม จนทำให้ปัจจุบันมีการรณรงค์เรื่องมะเร็งเต้านมบ่อยกว่ามะเร็งของอวัยวะอื่น
ที่สำคัญต้องขอย้ำกันอีกครั้งว่า ที่มีการส่งต่อข้อความที่ว่าตอนนี้คนไทยเป็นมะเร็งเบอร์ 1 ของเอเชียแล้ว อัตรา 1 คนต่อ 8 คนนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แท้จริงแล้วในเพศชายประเทศไทยเราอยู่แค่อันดับ 5 ในภูมิภาคอาเซียน เป็นรองจากอันดับหนึ่งถึงสี่คือ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา ตามลำดับ ส่วนในเพศหญิงพบเป็นอันดับ 8 ในภูมิภาคอาเซียน และหากนับทั้งทวีปเอเชีย ประเทศที่พบผู้ป่วยมะเร็งโดยรวมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไต้หวัน เกาหลี ญี่ปุ่น มองโกเลีย จีน ตามลำดับ
โดยสรุปสถานการณ์โรคมะเร็งในภาพรวมของบ้านเรา มีทิศทางที่ดีขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องร่วมแรงร่วมใจรณรงค์ให้ความรู้แก่ประชาชนในทุกๆ มิติ ส่วนพ่อแม่พี่น้องก็ต้องรักษาสุขภาพ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงทั้งปวง และที่สำคัญตรวจคัดกรองโรคมะเร็งเป็นประจำด้วยนะครับ…ขอบอก