เครดิต : คมชัดลึก 15 ส.ค. 2557
“รังไข่” อวัยวะเฉพาะเพศหญิงเพศแม่ ที่เดือนสิงหาคมนี้บรรดาลูกๆ ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพท่านเป็นพิเศษ เพราะรังไข่เป็นอวัยวะที่อยู่ลึกในอุ้งเชิงกราน อาการที่จะแสดงหรือเตือนให้เจ้าตัวรู้ล่วงหน้าว่าเป็นมะเร็งแต่เนิ่นๆ นั้นจึงแทบจะไม่มี จึงจัดเป็นมะเร็งที่เป็นภัยเงียบตัวจริงเสียงจริงก็ว่าได้
จากสถิติโรคมะเร็งในประเทศไทยฉบับล่าสุดปี 2550 – 2552 พบว่ามะเร็งรังไข่พบมากเป็นอันดับ 6 ของมะเร็งในเพศหญิงไทย พบอยู่ที่ 6.2 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน โดยรักษาตำแหน่งอยู่ในอันดับที่ 6 อย่างคงเส้นคงวามาตลอดตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา แต่จำนวนผู้ป่วยที่พบมีแนวโน้มสูงขึ้นจาก 5.1 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคนในช่วงปี 2544 – 2546 เป็น 5.6 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคนในช่วงปี 2547 – 2549 เห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นแบบนี้ก็ต้องใส่ใจสุขภาพรังไข่กันให้มากยิ่งขึ้น เพราะมะเร็งรังไข่มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่ามะเร็งอื่นๆ ของอวัยวะเพศหญิง เนื่องจากกว่าจะมาพบแพทย์ ผู้ป่วยส่วนใหญ่ร้อยละ 75 มะเร็งได้ลุกลามไปทั่วช่องท้องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งรังไข่ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่ามีความสัมพันธ์กับปัจจัยที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งเต้านมคือ มักพบในสาวใหญ่อายุมากกว่า 50 ปีที่ไม่มีบุตรหรือมีบุตรน้อย ผู้หญิงที่เริ่มมีประจำเดือนครั้งแรกอายุน้อยกว่า 12 ปี และหมดประจำเดือนช้าหลังอายุ 50 ปี มีไลฟ์สไตล์แบบตะวันตก บริโภคอาหารไขมันสูง การใช้แป้งฝุ่นทาบริเวณอวัยวะเพศเป็นเวลานาน การใช้ยากระตุ้นการตกไข่ การให้ฮอร์โมนเพศเสริมในผู้หญิงวัยทอง ผู้หญิงที่มีประวัติบุพการีหรือญาติพี่น้องผู้หญิงเป็นมะเร็งรังไข่ มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ ก็มีความเสี่ยงสูงมากเช่นกัน ส่วนอาการจำเพาะกับโรคมะเร็งรังไข่นั้นไม่มี อาการที่พบบ่อยก็ เช่น อาการท้องอืดเหมือนอาหารไม่ย่อย ท้องบวมโต อาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะผิดปกติ เบื่ออาหาร แน่นท้อง ล้วนเป็นอาการเมื่อโรคลุกลามไปมากแล้ว
สำหรับการรักษาหลักหนีไม่พ้นการผ่าตัด จะตัดมากตัดน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับการลุกลามของโรค เริ่มตั้งแต่ตัดมดลูกและรังไข่ออกทั้ง 2 ข้างพร้อมทั้งตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองบริเวณอุ้งเชิงกรานหรืออวัยวะข้างเคียง เช่น ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะในกรณีที่มีการลุกลาม แถมท้ายด้วยการเก็บน้ำในช่องท้องไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง บางรายต้องแถมพ่วงด้วยการตัดเอาเยื่อบุช่องท้อง ไขมันผังผืดในท้องออกไปด้วย เรียกว่าตัดออกให้มากที่สุด ส่วนใหญ่ต้องตามด้วยการให้ยาเคมีบำบัดแบบเลี่ยงไม่ได้
รู้อย่างนี้แล้วก็อย่าประมาทพาคุณแม่ไปตรวจภายในและตรวจอัลตราซาวดน์ช่องท้องส่วนล่างเสียแต่เนิ่นๆ ไม่ต้องรอให้มีอาการก่อน จะรักษาไม่หายขาดนะครับ…ขอบอก