รู้ทันมะเร็ง : ไฮฟู่รักษามะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  19 ก.ค. 2556           ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาในวงการมะเร็งไม่มีอะไรจะหวือหวาฮือฮาเท่ากับข่าวเครื่องมือแพทย์ตัวใหม่ในบ้านเรา ที่มีชื่อเรียกว่า “ไฮฟู่” ที่ทำให้ในสังคมโซเชียลมีเดียส่งต่อข้อมูลของเจ้าเครื่องมือตัวนี้ไปทั่ว ญาติสนิทมิตรสหายของคนไข้ช่วยกันบอกต่ออีกแรง ทำเอาผู้ป่วยมะเร็งต่างมีความหวัง พากันไปโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือนี้จนโรงพยาบาลแทบแตก           ที่เจ้าเครื่องมือตัวนี้มีชื่อแปลกประหลาดว่าไฮฟู่นั้น มาจากตัวย่อเป็นภาษาอังกฤษที่ว่า HIFU จากชื่อเต็มว่า High Intensity Focused Ultrasound แปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ ว่าการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงหรืออัลตราซาวนด์มาเพิ่มความเข้ม และยิงไปที่เป้าหมายอย่างเจาะจงตรงตำแหน่งก้อนเนื้องอก เป็นเทคโนโลยีของประเทศจีนร่วมกับญี่ปุ่น ปกติแล้วเราใช้อัลตราซาวนด์ในการตรวจวินิจฉัยโรคเป็นหลัก ที่หลายคนคงเคยไปตรวจกันมาแล้วแบบที่มีการทาเจลลื่นๆ ที่ผิวหนังแล้วมีหัวอัลตราซาวนด์ถูไปถูมาไม่เจ็บตัวอะไร โดยอาศัยหลักการส่งคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านเนื้อเยื่อแล้วสะท้อนกลับมาที่หัวอัลตราซาวนด์ไปสร้างภาพให้ปรากฏบนจอเครื่องว่าหน้าตาอวัยวะภายในนั้นเป็นอย่างไร มีก้อนเนื้องอกผิดปกติภายในอวัยวะนั้นหรือไม่ หลักการเดียวกับการใช้ระบบโซนาร์หาฝูงปลาในเรือประมง เครื่องไฮฟู่ก็พัฒนาต่อยอดจากเครื่องอัลตราซาวนด์ปกติคือ มีการเพิ่มความเข้มของคลื่นเสียงและยิงไปที่ก้อนที่ได้จากภาพที่ปรากฏอยู่เพื่อให้คลื่นเสียงที่มีทั้งความถี่และความเข้มสูง ทำให้เกิดความร้อนไปทำลายเซลล์เนื้องอกให้ฝ่อลง ปกติแล้วการตรวจอัลตราซาวนด์ใช้ในการตรวจอวัยวะที่เป็นก้อนตันๆ เช่น ตับ ตับอ่อน มดลูก ต่อมลูกหมาก ไต หรือพวกหลอดเลือด ไม่สามารถผ่านกระดูกหรือใช้ในอวัยวะที่เป็นท่อกลวงหรืออวัยวะที่มีอากาศอยู่ภายใน…

รู้ทันมะเร็ง : ใส่ท่อระบายนานแค่ไหนในมะเร็งท่อน้ำดี : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  26 ก.ค. 2556           ถามกันมามากอีกเหมือนกันครับกับปัญหาเรื่องการใส่ท่อระบายน้ำดีในผู้ป่วยมะเร็งที่มีภาวะตัวเหลืองตาเหลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีหรือมะเร็งตับชนิดเซลล์ท่อน้ำดีที่พบบ่อยที่สุดในโลกที่ภาคอีสานบ้านเรา นอกจากนั้นมะเร็งชนิดนี้ยังพบบ่อยในชายไทยติดอยู่ใน 5 อันดับแรกมายาวนาน เพราะฉะนั้นภาพผู้ป่วยที่มีท่อระบายน้ำดีโผล่ออกมาจากหน้าท้องด้านบนขวาต่อลงถุง จึงเป็นภาพที่คุ้นตาในโรงพยาบาลบ้านเรา           ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมจึงต้องใส่ท่อระบายน้ำดี เป็นเพราะผู้ป่วยมีภาวะท่อน้ำดีอุดตันจากก้อนมะเร็งไปกดเบียดท่อน้ำดี ทำให้มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง คันตามตัวและอาการอื่นอีกหลายอย่าง หากปล่อยทิ้งไว้นอกจากจะต้องทุกข์ทรมานจากอาการคันแบบที่ว่ายาอะไรก็เอาไม่อยู่แล้ว การที่น้ำดีคั่งอยู่ในตับเป็นเวลานานยังจะทำให้เซลล์ตับพัง เกิดภาวะตับแข็งจากการเกิดพังผืดในตับ การทำงานในหลายๆ ระบบที่เกี่ยวข้องกับตับก็จะเกิดปัญหาตามมา อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่าตับมีหน้าที่มากมายหลายอย่าง ภาวะท่อน้ำดีอุดตันนั้นเกิดได้ในมะเร็งอื่นๆ ที่บริเวณข้างเคียงโตมากดเบียดท่อน้ำดีหลัก เช่น มะเร็งถุงน้ำดี มะเร็งตับอ่อน หรือจากมะเร็งของอวัยวะอื่นที่ห่างไกล แต่กระจายมาที่ตับ กลุ่มหลังนี้มักไม่ค่อยทำให้เกิดท่อน้ำดีอุดตันแต่เมื่อก้อนมะเร็งเพิ่มจำนวนหรือขนาดใหญ่มากขึ้น อาจจะมีภาวะตัวเหลืองตาเหลืองจากการที่เซลล์ตับปกติที่เหลือน้อยทำงานเลวลง           การใส่ท่อระบายน้ำดีในผู้ป่วยมะเร็งนั้นมี 2 ประเภทหลักคือใส่แบบชั่วคราวหรือใส่แบบถาวรตลอดชีวิต ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลายเหตุผล ที่สำคัญคือระยะของโรคมะเร็งที่เป็น สภาพร่างกายหรือโรคประจำตัวของผู้ป่วย โดยทั่วไปจะใส่ท่อระบายน้ำดีในกรณีที่มีตัวเหลืองตาเหลืองมากคือมีท่อน้ำดีโป่งพองขยายตัวชัดเจน อย่างที่ทราบกันดีว่ามะเร็งบริเวณตับและท่อน้ำดีในบ้านเรา…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งที่หาตัวแม่ไม่เจอ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  16 ส.ค. 2556           เมื่อเดือนที่แล้วมีญาติผู้ป่วยมาปรึกษาเรื่องญาติป่วยเป็นก้อนโตที่ด้านข้างคอ แพทย์ที่รักษาผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกมาตรวจชิ้นเนื้อพบว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองที่เป็นมะเร็งแพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น แต่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าอวัยวะที่เป็นมะเร็งตัวแม่นั้นเป็นอวัยวะใด ส่งตรวจเพิ่มเติมกันอีกมากมายหลายรายการ ขณะนี้ยังรอผลการตรวจอยู่ ยังได้ไม่ครบ ญาติผู้ป่วยก็ร้อนอกร้อนใจกลัวว่าโรคมะเร็งจะลุกลามแพร่กระจายมากขึ้น เกรงว่าจะให้การรักษาไม่ทันการณ์           ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเจ้ามะเร็งที่รูปแบบการแพร่กระจายพิสดารพวกนี้กันก่อน ส่วนใหญ่แล้วชนิดของเซลล์มะเร็งประเภทนี้มักเป็นชนิดที่เรียกว่าอดีโนคาร์ซิโนม่า ซึ่งเป็นเซลล์มะเร็งที่กลายมาจากเซลล์เยื่อบุปกติชนิดคอลัมน่าร์ของอวัยวะต่างๆ ที่มีเยื่อบุชนิดนี้ ได้แก่ ปอด เต้านม ตับ กระเพาะอาหาร ลำไส้ใหญ่ ลำไส้ตรง ต่อมลูกหมาก แม้ว่าโดยทั่วไปรูปแบบการแพร่กระจายของมะเร็งจากอวัยวะต่างๆ จะมีรูปแบบที่ค่อนข้างชัดเจน เช่น การพบมะเร็งแพร่กระจายมาที่อวัยวะส่วนเหนือกว่าตำแหน่งกะบังลม มะเร็งตัวแม่มักอยู่ที่ส่วนบนของร่างกาย           อย่างไรก็ตาม มะเร็งที่หาตัวแม่ไม่เจอหรือหาเจอยากผิดปกตินี้พบได้ไม่บ่อย เหตุผลที่ทำให้หาไม่เจอนั้น เชื่อว่าอาจเป็นเพราะมะเร็งตัวแม่มีขนาดเล็ก โตช้า หรือจากการที่มะเร็งตัวแม่ถูกทำลายไปก่อนหน้านี้จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย      …

รู้ทันมะเร็ง : ออรัลเซ็กส์กับมะเร็งช่องปาก : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  14 มิ.ย. 2556           ช่วงนี้บรรดาดาราฮอลลีวู้ดออกมาเป็นข่าวในวงการสุขภาพบ่อยกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่แองเจลินา โจลีออกมาสร้างกระแสให้ตระหนักถึงภัยของมะเร็งเต้านมกันอย่างครึกโครมดังสนั่นไปทั่วโลก ล่าสุดดารายอดนิยมรุ่นเก่าฝ่ายชาย ไมเคิล ดักกลาส ก็ออกมาสร้างความฮือฮาเรื่องมะเร็งลำคอที่ตนเองเป็นว่าอาจมีสาเหตุจากการทำออรัลเซ็กส์ เป็นการกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวให้ความสนใจได้ดีกว่าการรณรงค์ตามรูปแบบปกติเสียอีก           อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการแพทย์แต่อย่างไร เพียงแต่สังคมทั่วไปอาจจะยังไม่ค่อยได้รับรู้มาก่อนว่ามะเร็งช่องปากและมะเร็งลำคอด้านในบริเวณโคนลิ้น เพดานอ่อนและต่อมทอนซิลมีสาเหตุประการหนึ่งจากไวรัสหูดหรือไวรัสเอชพีวีที่หลายคนรู้จักว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งอวัยวะเพศหญิงและมะเร็งช่องคลอด ส่วนที่จะเป็นสาเหตุที่แน่นอนในกรณีของไมเคิล ดักกลาสนั้นก็ไม่สามารถยืนยันฟันธงได้ เพราะสาเหตุของมะเร็งช่องปากและมะเร็งลำคอนั้นมีมากมายหลายอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การเคี้ยวหมาก รวมทั้งเชื้อไวรัสหูดด้วย ซึ่งเจ้าเชื้อไวรัสหูดที่ว่าก็ไม่ได้มีอยู่เฉพาะที่บริเวณอวัยวะเพศเพียงที่เดียว แต่มีอยู่ทั่วไปบริเวณเนื้อเยื่อที่มีโอกาสสัมผัส เชื้อนี้มีอยู่มากมายกว่า 150 สายพันธุ์ย่อย เชื่อว่าในช่วงชีวิตของทั้งเพศชายและหญิงมีโอกาสได้รับเชื้อไวรัสตัวนี้อย่างน้อยหนึ่งสายพันธุ์ มีทั้งที่ทำให้เกิดอาการและไม่แสดงอาการอะไร แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับเชื้อมักไม่มีอาการใดๆ และมักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา มีทั้งที่ไม่ทำให้เป็นมะเร็งและเป็นสาเหตุของมะเร็ง เพราะฉะนั้นจึงเป็นการยากที่จะสรุปว่าพฤติกรรมออรัลเซ็กส์เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งช่องปากและมะเร็งลำคอ           ศูนย์ควบคุมโรคของประเทศสหรัฐอเมริการายงานว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงเป็นมะเร็งลำคอ…

รู้ทันมะเร็ง : เมื่อไตเป็นมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  21 มิ.ย. 2556           ไตอวัยวะที่เป็นคู่คือมีไตซ้าย ไตขวาอยู่บริเวณบั้นเอวด้านข้างของกระดูกสันหลังช่วงอกข้อที่ 12 เรื่อยลงมาถึงกระดูกสันหลังช่วงเอวข้อที่ 3 อยู่ด้านหลังช่องท้องคืออยู่หลังเยื่อบุช่องท้อง รูปร่างหน้าตาคล้ายเมล็ดถั่ว มีหน้าที่สำคัญในการกรองของเสียออกจากร่างกายกลายเป็นน้ำปัสสาวะ ควบคุมความสมดุลของน้ำ และเกลือแร่ และสร้างฮอร์โมนหลายชนิดที่ช่วยในการควบคุมความดันโลหิตและช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงของไขกระดูก           มะเร็งของไตพบได้ไม่บ่อยเมื่อเทียบกับอวัยวะอื่น คือพบเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ของโรคมะเร็งทั้งหมด พบในเพศชายบ่อยกว่าเพศหญิงประมาณ 2 เท่า โดยพบได้สูงในช่วงอายุ 55-60 ปี ในเด็กพบมะเร็งไตได้บ่อยกว่าผู้ใหญ่แต่เป็นเนื้อเยื่อคนละประเภทกัน มะเร็งไตในผู้ใหญ่มีทั้งที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เนื้อเยื่อไตและมะเร็งของเซลล์เยื่อเมือกของกรวยไต ประเภทหลังบางครั้งเรียกว่ามะเร็งกรวยไต ซึ่งกรวยไตมีหน้าที่ในการกักเก็บปัสสาวะ ก่อนปล่อยลงท่อไตและลงสู่กระเพาะปัสสาวะในที่สุด มะเร็งกรวยไตมักเกิดร่วมกับมะเร็งกระเพาะปัสสาวะและมะเร็งของท่อไต           สาเหตุของมะเร็งไตยังไม่ทราบแน่ชัดแต่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดมะเร็งไตได้บ่อยได้แก่ การได้รับสารพิษบางชนิดในสิ่งแวดล้อมสูงอย่างต่อเนื่อง เช่น ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันปิโตรเลียมและแร่ธาตุบางชนิด เช่น แคดเมียม แร่ใยหิน…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งกินม้าม : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  10 พ.ค. 2556           ในบรรดาอวัยวะภายในช่องท้องหรืออวัยวะในระบบทางเดินอาหาร ม้ามจัดเป็นอวัยวะที่ถูกกล่าวถึงน้อยหรือไม่ค่อยถูกกล่าวถึงว่าเป็นมะเร็ง จนหลายคนสงสัยว่าม้ามอาจเป็นอวัยวะพิเศษที่ไม่เป็นมะเร็ง ที่เคยได้ยินกันบ่อยๆ ก็คำว่าม้ามโต ม้ามแตกตาย แต่ไม่ค่อยได้ยินคำว่ามะเร็งม้ามกันสักเท่าไรนัก           ก่อนอื่นมาทำความรู้จักเจ้าอวัยวะที่มักถูกลืมอันนี้ก่อนดีกว่า ม้ามเป็นอวัยวะที่เป็นก้อนตันๆ อยู่ใต้ชายโครงด้านซ้ายมีเลือดมาเลี้ยงมากแต่ยังน้อยกว่าตับ เป็นอวัยวะในระบบน้ำเหลืองของคนเราเป็นเหมือนต่อมน้ำเหลืองลูกใหญ่ในช่องท้อง พวกเดียวกับต่อมทอนซิล ต่อมไทมัส ทำหน้าที่กรองเลือดจัดการกับเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุขัยและสร้างภูมิคุ้มกันแอนติบอดี้เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย โรคเนื้องอกของม้ามไม่ว่าจะเป็นเนื้องอกธรรมดาหรือเนื้อร้ายนั้นพบได้ไม่ บ่อยทั้งคู่ ส่วนมากแล้วมักพบโดยบังเอิญจากการตรวจอัลตร้าซาวน์หรือเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นพวกถุงน้ำและเนื้องอกชนิดธรรมดามากกว่ามะเร็ง           มะเร็งที่เกิดขึ้นที่ม้ามส่วนใหญ่แล้วไม่ได้เริ่มต้นเกิดที่เนื้อเยื่อของตัวม้ามเองแต่มักเป็นมะเร็งที่อื่นแล้วลุกลามมาที่ม้าม มะเร็งของม้ามที่พบได้บ่อยก็คือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและมะเร็งเม็ดเลือดขาว แม้ว่าม้ามจะเป็นอวัยวะในระบบน้ำเหลืองเอง แต่มะเร็งต่อมน้ำเหลืองหรือที่เรียกว่าลิมฟ์โฟม่ามักเริ่มจากต่อมน้ำเหลืองที่อื่นแล้วลุกลามมาที่ม้ามมากกว่าจะเริ่มเป็นที่ตัวม้ามเอง ส่วนมะเร็งของอวัยวะอื่นที่กระจายมาที่ม้ามก็พบไม่บ่อย ทั้งๆ ที่ตามความน่าจะเป็นแล้วน่าจะมีเซลล์มะเร็งจากอวัยวะอื่นแพร่กระจายมาที่ม้ามมากเพราะเป็นอวัยวะที่มีเลือดมาเลี้ยงมาก มะเร็งที่พบว่าชอบกระจายมาที่ม้ามก็ได้แก่ มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับอ่อน มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับและมะเร็งลำไส้ใหญ่    …

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งกินรักแร้ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  18 ต.ค. 2556           อีกอาการหนึ่งของสัญญาณเตือนโรคมะเร็งที่พบบ่อยคืออาการมีก้อนขึ้นผิดปกติตามร่างกาย ซึ่งมีทั้งก้อนที่โตขึ้นจากตัวอวัยวะปกติ และอีกประเภทที่พบได้บ่อยกว่าคือต่อมน้ำเหลืองโตเป็นก้อนขึ้นตามร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณลำคอ ข้อพับต่างๆ ขาหนีบและตำแหน่งที่พูดถึงวันนี้คือ “รักแร้”           หลายคนคงเคยมีอาการเจ็บและมีก้อนบริเวณรักแร้ ส่วนใหญ่ที่พบมักเป็นซีสต์ของต่อมไขมันหรือต่อมเหงื่อที่ชั้นใต้ผิวหนังเกิดการอักเสบ มีอาการบวมแดงที่ผิวหนังชัดเจน บางรายอาจเห็นรูเปิดของซีสต์หรือสีผิวหนังบริเวณก้อนคล้ำผิดปกติ เนื่องจากซีสต์พวกนี้เกิดในชั้นล่างที่อยู่ติดชิดกับผิวหนังส่วนบน ในขณะที่ก้อนที่เกิดจากต่อมน้ำเหลืองโตอยู่ลึกกว่า เพราะอยู่ในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้การคลำหายากกว่าพวกซีสต์ใต้ผิวหนัง ถ้าคลำได้ก้อนที่ไม่ค่อยชัดเจนบริเวณรักแร้ มีอาการเจ็บบริเวณก้อนร่วมด้วยและเพิ่งเริ่มเป็นไม่นาน พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นแค่ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ มีทั้งที่เป็นการอักเสบที่ตัวต่อมน้ำเหลืองเองและพวกที่เกิดจากการติดเชื้อหรืออักเสบของบริเวณข้างเคียงแล้วเกิดต่อมน้ำเหลืองโตอักเสบจากการดักจับและต่อสู้กับการติดเชื้อนั้น           อีกกรณีหนึ่งที่เกิดขึ้นในเพศหญิงที่พบได้ประปรายคือก้อนที่รักแร้ อันเกิดจากเนื้อของเต้านมปกติที่เจริญผิดที่ เนื่องจากตัวเต้านมเมื่อเริ่มมีการพัฒนาอวัยวะตั้งแต่ที่ยังเป็นทารกอยู่ในท้องแม่ เริ่มตั้งต้นที่ตำแหน่งรักแร้ทั้งสองข้าง เมื่ออายุครรภ์มากขึ้นตามลำดับ ต่อมน้ำนมจะมีการเคลื่อนย้ายลงมาอยู่ที่บริเวณหน้าอกทั้งสองข้างตามปกติ ในรายที่ยังมีเนื้อเต้านมที่หลงเหลือตกค้างบริเวณรักแร้หรือเคลื่อนตัวลงมาไม่หมด ก็ทำให้มีก้อนปูดนูนบริเวณรักแร้ บางรายอาจมีอาการคัดตึงที่รักแร้เช่นเดียวกับบริเวณเต้านมในระหว่างที่มีประจำเดือน           มาถึงก้อนที่น่ากลัวที่บริเวณรักแร้ก็คือ…

รู้ทันมะเร็ง : กัมมันตรังสีรักษามะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  22 พ.ย. 2556           พูดถึงสารกัมมันตรังสี เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงเรื่องร้ายๆ มากกว่าเรื่องดี นับตั้งแต่ผลพวงที่ตามมาของการใช้ระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 และเมื่อเดือนมีนาคม 2554 เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีหลังการระเบิดของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงไฟฟ้า ที่เกิดตามหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทำเอาผู้คนทุกหมู่เหล่าพากันส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมรับ ทุกครั้งที่มีข่าวเรื่องการจะก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในบ้านเรา           แท้ที่จริงแล้ว สารกัมมันตรังสีใช่ว่าจะมีแต่โทษภัยสถานเดียว ประโยชน์จากการใช้กัมมันตรังสีในทางการแพทย์ก็มีไม่น้อยเช่นกัน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งนั้นมีทั้งช่วยในการวินิจฉัย การบอกระยะของโรคมะเร็ง การรักษา การติดตามการรักษาและการกลับมาเป็นซ้ำของโรค ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเรื่องการใช้สารกัมมันตรังสีในทางการแพทย์ หรือที่ภาษาอย่างเป็นทางการในทางการแพทย์เรียกว่าสาขาเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยการให้ผู้ป่วยได้รับสารกัมมันตรังสีในรูปของเหลว โดยการกินหรือฉีดเข้าสู่ร่างกาย สารกัมมันตรังสีนั้นจะเข้าสู่อวัยวะหรือเนื้อเยื่อที่มีความเฉพาะเจาะจงและปล่อยรังสีออกมา มีผลทำให้เนื้อเยื่อส่วนนั้นได้รับรังสีอย่างเต็มที่โดยตรง ขณะที่เนื้อเยื่อหรืออวัยวะข้างเคียงจะได้รับปริมาณรังสีในระดับต่ำกว่า จึงลดอันตรายจากรังสีต่อเนื้อเยื่อปกติและทำให้สามารถให้สารกัมมันตรังสีซ้ำได้หลายครั้ง โดยไม่ต้องวิตกกังวลว่าอวัยวะที่ปกติจะได้รับผลแทรกซ้อนไปด้วย           ตัวอย่างการรักษาโรคด้วยสารกัมมันตรังสีที่ใช้กันในปัจจุบัน เช่น การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์โดยใช้สารกัมมันตรังสีไอโอดีน 131 การรักษามะเร็งตับโดยฉีดสารทึบรังสีและสารกัมมันตรังสีไอโอดีน 131 เข้าทางหลอดเลือดแดงที่ตับโดยตรง…

รู้ทันมะเร็ง : ใช้ความเย็นเข่นฆ่ามะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  13 ม.ค. 2555           เมื่อฤดูหนาวมาเยี่ยมมาเยือน วงการแพทย์และสาธารณสุขก็ต้องออกมาเตือนเรื่องการปฏิบัติตัวเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก ผู้สูงอายุ คนป่วยและคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรังต้องเอาใจใส่เรื่องการรักษาความอบอุ่นให้แก่ร่างกายเป็นพิเศษ ราวกับว่าความหนาวเย็นเป็นโทษเป็นภัยต่อสุขภาพเสียมากกว่า แต่ในการรักษาโรคมะเร็งนั้น ความเย็นยังมีประโยชน์ที่สำคัญคือเป็นอีกวิธีการหนึ่งในการรักษาโรคมะเร็งที่หลายคนไม่เคยทราบมาก่อน           อันที่จริงการใช้ความเย็นในการรักษาโรคหลายๆ โรค รวมทั้งโรคมะเร็งนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด มีการใช้มาเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว แต่มีพัฒนาการขึ้นโดยลำดับตามการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ หลักการคือการใช้ความเย็นจัดจากเครื่องมือที่บรรจุไนโตรเจนเหลวหรือก๊าซอาร์กอนสามารถลดอุณหภูมิลงได้ถึงลบ 40 องศาเซลเซียส เพื่อทำลายเซลมะเร็งเรียกว่าก้อนมะเร็งกลายเป็นก้อนน้ำแข็งยังไงยังงั้น คือทำให้เย็นลงอย่างรวดเร็วและค่อยๆ ให้ก้อนน้ำแข็งละลายลงอย่างช้าๆ และสามารถทำซ้ำไปซ้ำมาได้หลายรอบ สามารถใช้ได้ทั้งในโรคบริเวณส่วนนอกของร่างกาย เช่น ผิวหนัง หรือโรคของอวัยวะภายในโดยการสอดแท่งโลหะนำความเย็นเข้าไปในตัวก้อนเนื้องอกโดยใช้อัลตราซาวน์หรือเอ็มอาร์ไอกำหนดตำแหน่งเพื่อให้แน่ใจว่าตรงเป้าหมายและไม่ให้โดนเนื้อเยื่อปกติข้างเคียง           โรคมะเร็งที่มีการใช้ความเย็นในการรักษาแล้วได้ผลการรักษาค่อนข้างดี ได้แก่ มะเร็งนัยน์ตาของเด็กชนิดเรติโนบลาสโตมา มะเร็งผิวหนังระยะเริ่มต้น ภาวะเซลปากมดลูกผิดปกติก่อนกลายเป็นมะเร็งมะเร็งกระดูกบางชนิด นอกจากนั้นมีการใช้ความเย็นในผู้ป่วยมะเร็งที่ไม่เหมาะสมกับการผ่าตัดเนื่องจากอายุมาก สภาพร่างกายไม่เอื้อต่อการผ่าตัด กลุ่มนี้ก็เช่น มะเร็งตับทั้งชนิดที่เป็นจากเซลตับเองหรือชนิดที่แพร่กระจายมาจากอวัยวะอื่น  …

รู้ทันมะเร็ง : เมื่อมะเร็งกำเริบ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  8 มิ.ย. 2555           สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ชักเริ่มน่าเป็นห่วงขึ้นทุกวัน ความขัดแย้งทางความคิดทางการเมืองที่นับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น จนหลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจถึงขั้นนองเลือดกันอีกรอบ ยังไงก็ขออย่าได้ใช้ความรุนแรงใส่กันเลยนะครับ พี่น้องคนไทยด้วยกันทั้งนั้น หวังว่าวันที่ตีพิมพ์วันที่ผู้อ่านกำลังอ่านบทความอยู่นี้ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นนะครับ…สาธุ           ความขัดแย้งของคนกลุ่มสีต่างๆ ที่กำลังออกมาเล่นกีฬาสีกันอยู่ในช่วงนี้ หลายคนได้ออกมาเปรียบเปรยว่า เสมือนโรคมะเร็งร้ายที่ยังรักษาไม่หายขาด ทั้งๆ ที่พยายามเยียวยารักษากันมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ด้วยความที่มีหลายหมอหลายวิธีการรักษาเลยยังเอาไม่อยู่ซะที เรื้อรังกันอยู่อย่างทุกวันนี้ เข้าทำนองมากหมอมากความยังไงยังงั้น สถานการณ์ตอนนี้เลยเปรียบเหมือนมะเร็งกำลังกำเริบ ถ้ารักษาไม่ดีไม่ถูกจุดอาจถึงขั้นเสียชีวิตก็เป็นได้           วกกลับมาเข้าเรื่องมะเร็งจริงๆ กำเริบดีกว่า หลังจากที่ผู้ป่วยได้รับการรักษาไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัดหรือการฉายแสงหรือใช้หลายๆ วิธีร่วมกันในการรักษา จนเซลล์มะเร็งส่วนใหญ่ถูกทำลายลง ก็อย่าเพิ่งชะล่าใจคิดว่าหายแล้ว สิ้นสุดการรักษาแล้ว ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกราย ไม่ว่าจะเป็นการรักษาหายขาดแล้วหรือการรักษาแบบประคับประคองจำเป็นต้องมาติดตามการรักษากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอ หากระหว่างติดตามแล้วโรคมะเร็งกำเริบ โดยดูจากอาการและอาการแสดงซึ่งขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งที่เป็นมากขึ้นนั้น ไปปรากฏที่อวัยวะไหน ถ้าเพิ่งเริ่มก็อาจจะยังไม่มีอาการอะไรชัดเจน ถ้าเป็นมากขึ้นก็จะเริ่มมีอาการ ซึ่งผู้ป่วยต้องหมั่นสังเกตอาการที่ผิดปกติตั้งแต่เนิ่นๆ  …