รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งจากกองขยะ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  25 พ.ค. 2555           ช่วง 2 สัปดาห์ก่อนมีข่าวที่ชาวบ้านและตำรวจโรงพักฉลองกรุงต้องเผชิญชะตากรรมกับกลิ่นเหม็นจากกองขยะทำเอาแสบคอ แสบจมูก วิงเวียนศีรษะ เจ็บไข้ได้ป่วยไปตามๆ กัน แม้ว่าปัจจุบันชาวบ้านชาวเมืองจะเห็นคุณค่าของขยะ รู้จักแยกขยะไปขายสร้างรายได้ รวมถึงมีบริษัทรับซื้อขยะเป็นเรื่องเป็นราวทั้งหัวถนนต้นซอยมากกว่าเมื่อก่อน แต่ขยะก็ไม่มีทีท่าจะลดจำนวนลง มิหนำซ้ำยังเพิ่มขึ้นมากมายตามจำนวนประชากรและการขยายตัวของสังคมเมืองที่นิยมการบริโภคแบบไร้ขีดจำกัดอย่างทุกวันนี้           ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดมลภาวะ น้ำเน่า ดินเสีย กลิ่นเหม็นอากาศเป็นพิษ กองขยะยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของหนู แมลงวัน แมลงสาบและสารพัดเชื้อโรค ทำให้เสียทัศนียภาพ สูญเสียงบประมาณในการกำจัด เรียกว่าสารพัดปัญหาที่ตามมาจากกองขยะ ยิ่งถ้ามีขยะสารพิษจากบ้านเรือนหรือโรงงานอุตสาหกรรมยิ่งแล้วใหญ่เพราะมันอาจมีสารก่อมะเร็งตามมาสมทบด้วย           จากข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณบ่อขยะที่ฉลองกรุงพบว่ามีสารพิษอันตราย 4 ตัวที่มีระดับสูงเกินค่ามาตรฐาน ที่สำคัญทั้ง 4 ตัวเป็นสารก่อมะเร็งคือ ตัวแรกสารไวนิลคลอไรด์ เจ้าสารตัวนี้องค์การวิจัยมะเร็งนานาชาติยืนยันแน่นอนแล้วว่าเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ทั้งมะเร็งตับ มะเร็งปอด…

รู้ทันมะเร็ง : หมอกจางจางและควันหนาหนา : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  16 มี.ค. 2555           หมอกจางจางและควันคล้ายกันจนบางทีไม่อาจรู้…เพลงฮิตในอดีตของ “คุณเบิร์ด” ธงไชย หลายคนคงจำได้ดี ยิ่งช่วงนี้เกิดสถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมหลายจังหวัดในภาคเหนือ ถ้าเป็นหน้าหนาวอาจจะแยกกันได้เพราะพอสายหน่อยอากาศเริ่มร้อนหมอกก็จะจางหายไป แต่ฤดูร้อนแบบนี้พี่น้องชาวภาคเหนือเห็นสภาพอากาศขมุกขมัวแบบนี้ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากควันสถานเดียว อันที่จริงสมัยก่อนก็ไม่เห็นมีปัญหาเรื่องหมอกควันมากมายอะไรขนาดนี้ ถ้าจำไม่ผิดสถานการณ์เริ่มเลวร้ายลงในช่วง 5 ปีหลัง จริงๆ แล้วไม่ควรใช้คำว่าสถานการณ์หมอกควัน แต่ควรใช้คำว่าสถานการณ์ควันไฟให้ชัดเจนตรงประเด็นกันไปเลยเพราะมัวแต่ใช้คำว่าหมอกควันทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทั้งๆ ที่แท้จริงแล้วสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากฝีมือมนุษย์ จากการเผาป่าเผาไร่เลื่อนลอยก่อนลงมือปลูกใหม่ ซึ่งนับวันปัญหานี้จะเริ่มลุกลามบานปลายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนจะเป็นปัญหาระดับภูมิภาคเข้าไปทุกที           ในหมอกควันที่ว่านั้นเต็มไปด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็ก เจ้าฝุ่นละอองที่ว่านี่แหละที่เป็นตัวปัญหาเพราะใน 8 จังหวัดภาคเหนือ มันมีปริมาณสูงเกินค่ามาตรฐานไปหลายเท่าตัว พวกฝุ่นละอองเหล่านี้มีผลต่อสุขภาพโดยตรงทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง แบบเฉียบพลันทำให้เกิดการระคายเคืองของระบบทางเดินหายใจ ดวงตา ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการไอ เจ็บคอ หอบหืด แสบจมูก แสบหู แสบตา ผิวหนังอักเสบ เรียกว่าหลีกเลี่ยงลำบากเพราะทุกคนต้องหายใจกันทั้งนั้น ถึงแม้จะใส่หน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นแล้วก็ตาม ก็ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กจิ๋วไม่ค่อยจะอยู่…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งกับการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสี : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  18 มี.ค. 2554           จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิตเรือนหมื่น นับเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเห็นใจชาวญี่ปุ่นยิ่งหนักที่ต้องประสบภัยธรรมชาติเช่นนี้           แต่ภัยพิบัติยังไม่หมดแค่นั้น ที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือการระเบิดของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของโรงงานไฟฟ้า มีการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสี แม้ว่าทางการจะออกมายืนยันในช่วงแรกว่า สารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมานั้นมีปริมาณน้อยก็ตาม ก็ยังสร้างความหวาดวิตกให้แก่ประชาชนชาวญี่ปุ่นที่เคยรับรู้ประสบการณ์จากผลร้ายที่ตามมาหลังเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิเมื่อ 66 ปีก่อนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสูงถึงกว่า 2 แสนคน เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้วงการแพทย์ได้เริ่มรู้จักมหันตภัยจากสารกัมมันตภาพรังสีมากยิ่งขึ้น           ในบ้านเราแม้จะไม่เคยมีการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสีอย่างรุนแรงก็ตาม แต่เหตุการณ์เมื่อต้นปี 2543 ที่มีคนเก็บของเก่าไปเปิดกระบอกลึกลับที่ภายในบรรจุสารกัมมันตภาพรังสีโคบอลท์ 60 ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์จนได้รับรังสีกันไปเต็มๆ มีผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว 3 ราย ส่วนที่เหลือก็พิการต้องถูกตัดนิ้วและตามมาด้วยสุขภาพที่ย่ำแย่ไปตามๆ กันผลร้ายที่ตามมาหลังการรั่วไหลของสารกัมมันตภาพรังสี นอกจากความผิดปกติจากการได้รับรังสีสูงแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักลงเอยด้วยการเสียชีวิต อันเนื่องมาจากการที่รังสีมีผลต่อไขกระดูก ระบบทางเดินอาหาร ระบบหัวใจหลอดเลือด และระบบประสาทส่วนกลาง ตามแต่ปริมาณของรังสีที่ได้รับแล้วนั้น ผลร้ายที่ตามมาแบบเรื่อยๆ…

รู้ทันมะเร็ง : ที่ปรึกษาปัญหามะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  8 พ.ค. 2558           ใครที่ไม่เคยมีญาติหรือคนใกล้ตัวเป็นมะเร็ง จะไม่มีทางเข้าใจเลยว่ามันสับสนกับชีวิตขนาดไหน เพราะปัจจุบันข้อมูลข่าวสารการรักษาโรคมะเร็งมีมากมายมหาศาลทั้งของไทยและต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีการโหมโฆษณาประชาสัมพันธ์การรักษาทางเลือกต่างๆ มากมาย มีทั้งเชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง สิ่งสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกการรักษาของผู้ป่วยและญาติคือ เวลาของผู้ป่วยที่เหลืออยู่น้อยลงทุกที และเรื่องของความกลัวผลข้างเคียงของการรักษาแผนปัจจุบัน จนทำให้ผู้ป่วยหลายต่อหลายราย หลงทางผิดไปเลือกการรักษาที่ยังไม่มีผลยืนยันชัดเจน           ปกติแล้วเมื่อผู้ป่วยถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเรียบร้อยแล้ว โดยได้ข้อมูลครบถ้วนทั้งอวัยวะที่เป็น ประเภทของเซลล์มะเร็ง และระยะของโรคที่ลุกลามไปมากน้อยเพียงใด ก็จะมีการส่งตัวไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมะเร็งอวัยวะหรือสาขานั้นๆ ซึ่งแพทย์กลุ่มนี้แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกคือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามระบบอวัยวะนั้นๆ เช่น ผู้ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากที่ยังไม่แพร่กระจาย ก็ถูกส่งตัวไปพบศัลยแพทย์ระบบทางเดินปัสสาวะ เพื่อทำการผ่าตัดต่อมลูกหมากออก มะเร็งของอีกหลายอวัยวะก็มีแพทย์หลายระบบมาร่วมกันให้การรักษา แพทย์อีกกลุ่มที่ดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยก็คือแพทย์เฉพาะทางสาขามะเร็ง แบ่งย่อยๆ ออกเป็นหลายสาขา เช่น สาขาอายุรศาสตร์โรคมะเร็งทำหน้าที่ให้ยาเคมีบำบัด สาขารังสีรักษามีหน้าที่ให้การฉายแสง ฝังแร่ สาขาศัลยศาสตร์มะเร็งทำหน้าที่ผ่าตัดเอาส่วนที่เป็นมะเร็งออกจากร่างกาย สาขามะเร็งนรีเวชผ่าตัดมะเร็งของอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิง นอกจากนั้นยังมีสาขาย่อยๆลงไปอีก เช่น อายุรศาสตร์โลหิตวิทยาให้การรักษามะเร็งระบบเลือด เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว…

รู้ทันมะเร็ง : โดนหลอกไปรักษามะเร็งที่เมืองจีน : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  10 เม.ย. 2558           ด้วยการโฆษณาอย่างหนักหน่วงเต็มรูปแบบ ทั้งลงทุนโฆษณาในหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่หัวสีทุกวันอย่างต่อเนื่องมาหลายปี ลงทุนโฆษณาในเว็บเพจ ถ้าลองค้นหาคำว่ามะเร็งในอินเทอร์เน็ต จะพบชื่อโรงพยาบาลของจีนโรงพยาบาลนี้เป็นชื่อแรกชื่อบนสุดเสมอ นอกจากนั้นยังมีโครงการรักษาฟรีให้ผู้ป่วยมะเร็งไทย แล้วจ้างทีวีไทยหลายต่อหลายช่องไปทำข่าวอีกด้วย ต้องยอมรับการทำการตลาดหาลูกค้าของหน่วยงานนี้ ที่สามารถโน้มน้าวเอาคนป่วยฐานะดีของบ้านเราไปรักษาได้หลายราย           ลำพังถ้าการรักษามากมายที่โฆษณากันนั้น บอกกันแบบตรงไปตรงมาไม่มีหมกเม็ด คือบอกวิธีการรักษาของโรคมะเร็งแต่ละอวัยวะที่เป็นมาตรฐานและการรักษาใดที่ยังอยู่ในขั้นตอนการวิจัย หรือการรักษาใดยังเป็นแค่การรักษาทางเลือกที่ยังไม่มีผลการรักษาที่ชัดเจนแน่นอน แต่แค่เอาตัวอย่างผู้ป่วยที่รักษาได้ผลดีมาโชว์ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าที่ได้ผลการรักษาดีนั้นมาจากจำนวนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาวิธีนั้นทั้งหมดจำนวนเท่าไหร่ ที่สำคัญการรักษาที่คุยว่าเป็นวิธีการใหม่เอี่ยม แต่แท้ที่จริงแล้วกลับไม่มีอะไรใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการฝังแร่ไอโอดีน การใช้ความร้อน การใช้ความเย็น การใช้ยาเคมีบำบัดเฉพาะที่ การรักษาพวกนี้มีในหลายโรงพยาบาลทั้งในประเทศไทยและในหลายประเทศทั่วโลก เพียงแต่นำมาใช้ในการรักษามะเร็งของอวัยวะต่างๆ ตามการรักษามาตรฐานที่มีข้อสรุปยืนยันแล้วเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น การใช้รังสีจากภายในโดยการฝังแร่หรือสารกัมมันตรังสี เช่น อิริเดียม 192 โคบอลท์ 60 ในตำแหน่งที่เป็นมะเร็งโดยตรง ทำให้เนื้องอกได้รับปริมาณรังสีที่สูงและอวัยวะข้างเคียงได้รับรังสีน้อย วิธีนี้เหมาะสำหรับการรักษามะเร็งบางอวัยวะเท่านั้น เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งมดลูก ไม่ได้นำมาใช้รักษามะเร็งได้ทุกอวัยวะอย่างที่โฆษณาชวนเชื่อกันไว้ แต่ถ้าจะนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งอื่นๆ…

รู้ทันมะเร็ง : มีสติก่อนวิ่งหาการรักษามะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  30 ม.ค. 2558           เป็นเรื่องน่าเห็นใจทุกครั้งเมื่อใครก็ตามได้ทราบข่าวว่าคนที่ตัวเองรู้จักป่วยเป็นมะเร็ง และก็มีเพื่อนสนิทมิตรสหายจำนวนไม่น้อยเช่นกันเป็นห่วงเป็นใยแนะนำแพทย์ที่จะให้การรักษา รวมไปถึงแนะนำวิธีการรักษารูปแบบต่างๆ ด้วยความหวังดี ยิ่งในยุคข้อมูลข่าวสารแบบนี้ การเข้าถึงความรู้ต่างๆ ด้านสุขภาพทำได้ง่ายขึ้น บวกกับมีการรักษาทางเลือกใหม่ๆ มากมายเต็มไปหมด ทำเอาสับสนกันไปตามๆ กันทั้งตัวผู้ป่วยและคนรอบข้าง           มาว่ากันที่วิธีการรักษาโรคมะเร็งที่เป็นการรักษามาตรฐานแผนปัจจุบันก็มี 3 วิธีหลักคือ การผ่าตัด การฉายแสง และการให้ยาเคมีบำบัด ส่วนการจะเลือกวิธีการไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ปัจจัยหลักคือตัวคนไข้เองและปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับตัวโรคมะเร็ง ปัจจัยที่เกี่ยวกับตัวคนไข้เองก็เช่น อายุ ความสมบูรณ์แข็งแรง โรคประจำตัวต่างๆ เป็นต้น ส่วนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับตัวโรคมะเร็งก็เช่น อวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะของโรค ซึ่งปัจจัยหลักทั้งสองเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้รายนั้นๆ เพราะฉะนั้นคนไข้ที่เป็นมะเร็งชนิดเดียวกัน จึงไม่ได้รักษาด้วยวิธีการเดียวกันเสมอไป นั่นเป็นเหตุผลที่สำคัญที่ผู้ป่วยต้องเข้าใจหลักในการเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองจากแพทย์ผู้ให้การรักษา           นอกนั้นก็ยังมีการรักษาแผนปัจจุบันรูปแบบอื่นๆ ที่มีรายละเอียดปลีกย่อย ว่ากันไปตามมะเร็งของแต่ละอวัยวะๆ…

รู้ทันมะเร็ง : ระยะเวลากับการรักษามะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  28 พ.ย. 2557           เรื่องของเวลาใครๆ ก็รู้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เมื่อผ่านช่วงเวลาที่สำคัญไปแล้วนั้น มนุษย์เราไม่สามารถเรียกร้องหรือขอย้อนเวลากลับไปหาอดีตได้อีก เช่นเดียวกับการรักษาโรคต่างๆ ถ้ารู้ได้เร็วว่าตนเองเป็นโรคอะไรแล้วรีบเข้ารับการรักษา ผลการรักษาก็ยิ่งได้ผลดีมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็ง ถ้ารู้ได้เร็ว รักษาได้เร็วเท่าไหร่ นอกจากจะมีผลต่อการรักษาแล้ว ยังทำให้โอกาสมีเวลาเหลือใช้ชีวิตในโลกใบนี้ในชาตินี้มากขึ้นเท่านั้น           เริ่มต้นจากเมื่อมีอาการผิดปกติที่เรียกว่า 7 สัญญาณอันตราย ที่หากมีอาการต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์นั้น ให้รีบไปพบแพทย์อันได้แก่ อาการระบบขับถ่ายที่เปลี่ยนแปร แผลที่ไม่รู้จักหาย ร่างกายมีก้อนตุ่ม กลุ้มใจเรื่องกินกลืนอาหาร ทวารทั้งหลายมีเลือดไหล ไฝหูดที่เปลี่ยนไป ไอและเสียงแหบจนเรื้อรัง อย่างไรก็ตาม ใครที่มีอาการใดใน 7 กลุ่มอาการที่ว่านี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นมะเร็งทุกรายไป แพทย์ต้องทำการตรวจร่างกาย ส่งตรวจอื่นๆ อย่างละเอียดเพิ่มเติม อาจจะเป็นการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ การส่องกล้อง การตรวจทางรังสีวินิจฉัยอื่นๆ ช่วงระยะเวลาการรอผลการตรวจนี้ก็มีความสำคัญอันมีผลต่อการรักษาด้วยเช่นกัน โดยทั่วไปไม่ควรรอผลนานเกิน 2…

รู้ทันมะเร็ง : ใส่ท่อให้อาหารในผู้ป่วยมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  6 ก.ย. 2556           วันก่อนมีญาติผู้ป่วยมะเร็งมาปรึกษาเรื่องที่คนไข้มะเร็งลุกลามมากขึ้น กินอาหารได้น้อยลง จะพาไปโรงพยาบาลให้หมอใส่ท่อให้อาหารเลยดีหรือเปล่า หรือจะให้กินวิตามินหรืออาหารเสริมอะไรก่อนดี ไม่รู้จะเอายังไงดี           ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจตรงกันก่อนว่า การให้สารอาหารเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งไม่แพ้เรื่องวิธีการรักษา ผู้ป่วยโรคมะเร็งส่วนใหญ่มักอยู่ในสภาวะทุพโภชนาการหรือขาดอาหารไม่มากก็น้อย นับตั้งแต่เริ่มมีอาการมาพบแพทย์ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้นการรักษา ผู้ป่วยมะเร็งหลายอวัยวะไม่เฉพาะมะเร็งของระบบทางเดินอาหารมักมีอาการอาเจียน เบื่ออาหาร ทำให้กินอาหารไม่ได้มากเหมือนปกติ ก่อนที่จะให้การรักษาแพทย์ต้องประเมินระยะของโรคให้ชัดเจนก่อนว่าอยู่ในระยะใด จะให้การรักษาอย่างไร ถ้าโรคยังอยู่ในระยะที่รักษาหายขาดได้และผู้ป่วยยังอยู่ในสภาวะโภชนาการบกพร่อง ก็จำเป็นต้องให้อาหารที่มีประโยชน์กับร่างกาย โดยทั่วไปถ้าทางเดินอาหารของผู้ป่วยยังปกติดี ก็มักจะให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารทางปากตามปกติ โดยอาจร่วมกับการให้วิตามิน นม หรืออาหารเสริมอื่นๆ เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วน แต่ถึงกระนั้นก็ตามผู้ป่วยที่มีอาการเบื่ออาหารมากก็มักกินอาหารทางปากไม่ได้เต็มที่           ในบางรายอาจจำเป็นต้องใส่ท่อให้อาหารผ่านทางจมูกเข้าไปในกระเพาะอาหาร เพื่อให้อาหารปั่นหรือนมเสริมอาหารเข้าสู่ทางเดินอาหารได้โดยตรง บางรายที่ไม่สามารถให้อาหารทางระบบทางเดินอาหารได้ ก็อาจจะต้องให้สารอาหารทางหลอดเลือดดำซึ่งมีราคาแพงกว่า และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนเรื่องการติดเชื้อได้มากกว่า ซึ่งอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม การมัวแต่รอแก้ไขเรื่องสภาวะโภชนาการก็อาจทำให้โรคมะเร็งลุกลามมากขึ้น แต่การรีบเอาผู้ป่วยไปรักษาในขณะที่ยังอยู่ในสภาพขาดอาหารก็อาจมีผลเสียตามมา เช่น แผลผ่าตัดแยกไม่ติดหรือรอยต่อที่เย็บไว้รั่ว…

รู้ทันมะเร็ง : รักษามะเร็งที่ไหนดี : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  14 พ.ย. 2557           อีกคำถามยอดฮิตที่ผู้ป่วยและญาติชอบถามกันเป็นประจำ ว่าเป็นมะเร็งแล้วจะไปรักษาที่ไหนดี นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ปัจจุบันคนไทยมีสิทธิ์การรักษากันถ้วนหน้าทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากกรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม และสำนักงานหลักประกันสุขภาพ ใครที่ไม่มีทางเลือกหรือจะใช้ตามสิทธิ์ที่ตนเองมี ก็ว่ากันไปตามโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษา ส่วนใครที่มีโอกาสเลือกหรือไม่อยากใช้สิทธิ์ที่ตนเองมี ก็อาจไปตรวจรักษาโดยจ่ายเงินเองซึ่งมีทั้งโรงพยาบาลของภาครัฐและภาคเอกชน ยิ่งระยะหลังมีโรงพยาบาลเอกชนต่างชาติมาโฆษณาตามหน้าหนังสือพิมพ์ตามเวปเพจ ผู้ป่วยเลยยิ่งสับสนไปกันใหญ่           ก่อนจะตอบว่าควรไปรักษามะเร็งที่ไหน คงต้องรู้ก่อนว่าจะรักษามะเร็งของผู้ป่วยรายนั้นอย่างไร ซึ่งก็จำเป็นต้องรู้ก่อนว่าเป็นมะเร็งอะไร อวัยวะไหน ระยะเท่าไหร่แล้ว และที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าปัจจัยเรื่องโรคมะเร็งแล้ว ก็คือสภาพร่างกายของผู้ป่วย โรคประจำตัวต่างๆ ที่สำคัญ เช่น โรคหัวใจ โรคปอด ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ตับแข็ง ถ้าสภาพร่างกายไม่แข็งแรง มีโรคประจำตัวที่เป็นมากหรือควบคุมโรคไม่ค่อยได้ โอกาสที่จะรักษาได้ตามมาตรฐานก็ลดน้อยลง แต่ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องสภาพร่างกาย ก็ให้การรักษาไปตามมาตรฐานของมะเร็งของอวัยวะนั้นตามระยะของโรค ซึ่งหนีไม่พ้นการรักษาตามมาตรฐาน 3 วิธีการหลัก คือการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง อาจใช้การรักษาอย่างใดอย่างหนึ่ง…

รู้ทันมะเร็ง : โฆษณาเกี่ยวกับมะเร็งเชื่อถือได้แค่ไหน?

เครดิต : คมชัดลึก  29 ส.ค. 2557           ท่ามกลางความสงบของบ้านเมืองที่เริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้วในเวลานี้ แต่ในวงการที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งหาได้สงบเงียบไม่ การโฆษณาชวนเชื่อที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นในแง่การป้องกันการเกิดโรคมะเร็งที่หลายคนกลัวกันนักกันหนา โฆษณาการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีการต่างๆ ที่ผู้ป่วยและญาติต่างสับสนกับข้อมูลที่จริงบ้างไม่จริงบ้าง วันนี้ได้โอกาสขอทำความเข้าใจเรื่องนี้กันบ้างก็ดี           ในทางการแพทย์ การจะได้มาซึ่งบทสรุปเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสาเหตุของการเกิดโรค การป้องกันโรคที่ถูกวิธี การตรวจวินิจฉัยโรค ตลอดจนการรักษาและการติดตามผลการรักษานั้น ต้องผ่านการศึกษาวิจัยกันอย่างเข้มข้น ใช้เวลายาวนานในการศึกษาวิจัยกว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องนั้นๆ ที่สำคัญในแต่ละขั้นตอนของการศึกษาวิจัยนั้น มีการบอกระดับความน่าเชื่อถือของหลักฐานทางการแพทย์ว่าอยู่ในระดับใด น่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้ใครก็ตามที่จะเอาผลงานวิจัยนั้นไปใช้ในทางปฏิบัติ ไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ป่วยและญาติสามารถรับรู้ได้อย่างเปิดเผย เมื่อนำผลงานวิจัยไปใช้จะได้เข้าใจและยอมรับผลที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่การศึกษาวิจัยนั้นยังอยู่ในระดับที่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ ยืนยันว่าน่าเชื่อถือมากเพียงพอ           การแบ่งระดับหลักฐานทางการแพทย์ที่ใช้ในการอ้างอิงความน่าเชื่อถือของงานวิจัยนั้น แบ่งเป็น 5 ระดับ เริ่มจากระดับที่ 1 ที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด เป็นผลงานวิจัยที่มีการศึกษาวิจัยเปรียบเทียบในแต่ละกลุ่ม โดยการเลือกสมาชิกในแต่ละกลุ่มทำแบบสุ่มและไม่มีอคติในการเลือก หรือเป็นผลการทบทวนผลงานวิจัยเรื่องนั้นๆ จำนวนมากอย่างเป็นระบบ…