ข่าวปลอม อย่าแชร์! เปลือกและรากของต้นแทงทวย ใช้รักษาโรคมะเร็งได้

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง เปลือกและรากของต้นแทงทวย ใช้รักษาโรคมะเร็งได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการระบุสรรพคุณของต้นแทงทวยว่าสามารถใช้เปลือกและราก ในการรักษามะเร็งได้นั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลวิชาการ และชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่มีข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ว่าเปลือกหรือรากของต้นแทงทวย สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ ซึ่งแทงทวย หรือสีเสียดน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์ Mallotus plicatus เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง พบตามป่าไม้ผลัดใบ จากการสืบค้นข้อมูลพบว่าเปลือกต้นแทงทวยประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระกลุ่มไตรเทอร์พีนอยด์ เบอจินีน เดาโคสเตอรอล และสารประกอบฟีนอลิค อย่างไรก็ตามการศึกษาด้านสรรพคุณทางการแพทย์ของแทงทวยมีจำนวนน้อย อีกทั้งยังเป็นเพียงการศึกษาระดับเซลล์และสัตว์ทดลองเท่านั้น จึงไม่มีข้อมูลเพียงพอและไม่สามารถสรุปได้ว่าเปลือกหรือรากของต้นแทงทวยสามารถนำมารักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ โดยการนำพืชสมุนไพรมาใช้เพื่อหวังผลทางการรักษา โดยไม่ทราบรายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง อาจทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสในการรักษาที่เหมาะสม หากผู้ป่วยมะเร็งต้องการใช้ยาสมุนไพรเสริมการรักษา ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอและไม่สามารถสรุปได้ว่าเปลือกหรือรากของต้นแทงทวยสามารถนำมารักษาผู้ป่วยมะเร็งได้ หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวปลอม อย่าแชร์! ต้นมะแว้งนก ช่วยรักษามะเร็งปากมดลูก

ตามที่มีการเผยแพร่วิดีโอผ่านโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ต้นมะแว้งนก ช่วยรักษามะเร็งปากมดลูก ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ กรณีการระบุสรรพคุณของต้นมะแว้งนกว่า สามารถรักษามะเร็งปากมดลูกได้ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า สารที่พบในต้นมะแว้งนก ประกอบด้วยสารในกลุ่มแอลคาลอยด์ ซาโปนิน วิตามินเอ วิตามินซี เป็นต้น ซึ่งสารประกอบไกลโคแอลคาลอยด์ที่สำคัญ ได้แก่ สารโซลานีน (Solanine) จัดเป็นสารพิษธรรมชาติที่พบได้ในพืช เมื่อรับประทานโดยไม่ผ่านความร้อนอาจส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสียได้ นอกจากนี้ยังมีสารในกลุ่มเดียวกัน คือ โซลาโซนีน (Solasonine) และโซลามารจีน (Solamargine) ซึ่งมีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาด้านการต้านมะเร็งในระดับเซลล์พบว่าเป็นสารที่มีความเป็นพิษต่อเซลล์มะเร็งหลายชนิด เช่น เซลล์มะเร็งตับ เซลล์มะเร็งเต้านม เซลล์มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยที่ใช้มะแว้งนกรักษาโรคมะเร็งปากมดลูกหรือมะเร็งชนิดอื่น ๆ ในมนุษย์ และควรศึกษารายละเอียดสรรพคุณทางยาของพืชและนำมาใช้ในปริมาณที่เหมาะสม หมั่นสังเกตอาการข้างเคียงหรือฤทธิ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งการรับประทานเพื่อหวังผลในด้านการรักษาโรคควรปรึกษาและขอคำแนะนำจากแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/ หรือ…

ข่าวบิดเบือน 9 อาหาร ที่เด็กไม่ควรรับประทาน เพราะทำให้เป็นโรคมะเร็ง

ตามที่ได้มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง 9 อาหาร ที่เด็กไม่ควรรับประทาน เพราะทำให้เป็นโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลบิดเบือน จากที่มีการแชร์ข้อมูลอาหารที่เด็กไม่ควรรับประทาน 9 ชนิด ที่ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป, แฮม ไส้กรอก, คุกกี้, ไอศกรีม, มันฝรั่งทอดแผ่น, หมากฝรั่ง, ขนมเยลลี่และวุ้นสำเร็จรูป และชานม เพราะทำให้เกิดโรคมะเร็งได้นั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ (International Agency for Research on Cancer; IARC) จัดให้เนื้อสัตว์แปรรูปเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ และสารอะคริลาไมด์ (สารที่เกิดจากอาหารจำพวกแป้งที่ผ่านความร้อนสูง) เป็นสารกลุ่มที่มีความเป็นไปได้สูงในการก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่เชื่อมโยงว่าการรับประทาน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป คุกกี้ ไอศครีม มันฝรั่งแผ่นทอด ผลไม้อบแห้ง หมากฝรั่ง ขนมเยลลี่และวุ้นสำเร็จรูป ชานม ทำให้เกิดมะเร็ง โดยจากการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการสามารถจัดกลุ่มอาหารดังกล่าวได้ 2 กลุ่ม ได้แก่ 1. อาหารทั่วไป ได้แก่…

เจ็บคอ รู้สึกมีก้อนติดอยู่ในลำคอ เป็นสัญญาณเตือนมะเร็งในช่องปาก จริงหรือ?

ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับประเด็น เจ็บคอ รู้สึกมีก้อนติดอยู่ในลำคอ เป็นสัญญาณเตือนมะเร็งในช่องปาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง กรณีการโพสข้อความว่า เจ็บคอและรู้สึกมีก้อนติดอยู่ในลำคอ เป็นสัญญาณเตือนมะเร็งในช่องปาก ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า อาการดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งในช่องปากได้ โดยมะเร็งช่องปาก เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นได้หลายตำแหน่งในช่องปาก ได้แก่ ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก พื้นใต้ลิ้น ลิ้นไก่ และต่อมทอนซิล ซึ่งสาเหตุของมะเร็งช่องปากมาจากหลายปัจจัย เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ และการเคี้ยวหมาก การติดเชื้อไวรัส Human papilloma virus (HPV) หรือการมีแผลเรื้อรังในช่องปาก โดยทั่วไปเราสามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ เช่น  มีอาการเจ็บ หรือรู้สึกมีก้อนติดอยู่ในลำคอ มีแผลในช่องปากคล้ายแผลร้อนในเรื้อรัง มีอาการชา หรือเจ็บบริเวณใบหน้า ปาก และลำคอ โดยไม่ทราบสาเหตุ พบรอยโรคสีขาว สีแดง หรือสีขาวปนแดงในปาก พบก้อนเนื้อบวมโต หรือมีเลือดออกผิดปกติในช่องปาก ทั้งนี้ หากพบว่ามีอาการผิดปกติบริเวณช่องปากและคอหอยติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการตรวจเจอโรคมะเร็งในระยะเริ่มแรกจะทำให้มีโอกาสรักษาหายขาดได้…

ข่าวปลอม อย่าแชร์! พุทธรักษาดอกขาว ช่วยรักษาโรคมะเร็ง

ตามที่มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่อง พุทธรักษาดอกขาว ช่วยรักษาโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคมะเร็ง ด้วยดอกพุทธรักษาสีขาวนั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าพุทธรักษาดอกขาวรักษามะเร็งในมนุษย์ได้ ซึ่งสมุนไพรมีคุณประโยชน์แต่ควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ชนิดของสมุนไพร ฤทธิ์ทางเภสัช และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรปรึกษาแพทย์ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยพุทธรักษา เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ และมีหลายสายพันธุ์ จากการสืบค้นงานวิจัยพบว่าพุทธรักษาสายพันธุ์ Canna indica L. มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดเป็นองค์ประกอบ เช่น แอลคาลอยด์ ฟลาโวนอยด์ เทอร์พีนอยด์ ซาโปนิน และแทนนิน จึงมีการทดลองนำสารสกัดจากพุทธรักษามาใช้ทดสอบฤทธ์ยับยั้งเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามงานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการศึกษาเบื้องต้นที่ศึกษาในระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าจะสามารถรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ได้ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าพุทธรักษาดอกขาวรักษามะเร็งในมนุษย์ได้ และผู้ป่วยโรคมะเร็งควรปรึกษาแพทย์ อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด หน่วยงานที่ตรวจสอบ…

ข่าวบิดเบือน สารสกัดจากใบบัวตองสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้

ตามที่ได้มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่อง สารสกัดจากใบบัวตองสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน จากที่มีคลิปวิดีโอแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับสารสกัดจากใบบัวตอง โดยกล่าวว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้นั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า สารสกัดจากใบบัวตองสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าสามารถยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งในมนุษย์ โดยบัวตอง มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดเป็นองค์ประกอบ ได้แก่ แอลคาลอยด์ ฟลาโวนอยด์ ฟีนอล ซาโปนิน แทนนิน และเทอร์ปีนอยด์ จากการสืบค้นงานวิจัยพบว่าใบบัวตองมีสาร sesquiterpene ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงมีการนำสารสกัดจากใบบัวตองมาศึกษาวิจัยในระดับเซลล์พบว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองที่ศึกษาในห้องปฏิบัติการเท่านั้น และแม้ว่าสมุนไพรมีคุณประโยชน์แต่ควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ชนิดของสมุนไพร ฤทธิ์ทางเภสัช และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรปรึกษาแพทย์ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : สารสกัดจากใบบัวตองสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าสามารถยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งในมนุษย์ หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ…

ข่าวปลอม อย่าแชร์! สมุนไพรย่านางแดงมีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็ง

ตามที่มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่อง สมุนไพรย่านางแดงมีสรรพคุณรักษาโรคมะเร็ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่เกี่ยวกับสรรพคุณของสมุนไพรย่านางแดง ที่กล่าวว่าสามารถนำมาใช้รักษารักษาโรคมะเร็งได้นั้น ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงว่า จากการสืบค้นงานวิจัยพบว่าย่านางแดงมีสาร tiliacorinine ที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จึงนำสารสกัดจากย่านางแดงมาศึกษาวิจัยในระดับเซลล์พบว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองที่ศึกษาในห้องปฏิบัติการเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าย่านางแดงจะสามารถรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ได้ โดยย่านางแดง เป็นสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น รสชาติจืด ในทางการแพทย์แผนไทยใช้ใบ ต้น และรากของย่านางแดงในการถอนพิษเบื่อเมา แก้น้ำเหลืองเสีย แก้ไข้ปวดเมื่อย แก้ท้องผูก แก้ไข้สุกใส ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ซึ่งย่านางแดงมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดเป็นองค์ประกอบ ได้แก่ แอลคาลอยด์ ฟลาโวนอยด์ ซาโปนิน และแทนนิน แต่ทั้งนี้สมุนไพรมีคุณประโยชน์แต่ควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ชนิดของสมุนไพร ฤทธิ์ทางเภสัช และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรปรึกษาแพทย์ และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : มีเพียงการศึกษาวิจัยในระดับเซลล์ ที่พบว่าสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งในหลอดทดลองที่ศึกษาในห้องปฏิบัติการเท่านั้น…

มะเร็งท่อน้ำดี ภัยเงียบที่คร่าชีวิตคนไทย พบมากที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

ปัจจุบันประเทศไทยพบมะเร็งตับ 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับและมะเร็งท่อน้ำดีตับ พบมากที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบี ไม่รับประทานปลาน้ำจืดดิบ ปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตและพฤติกรรมสุขภาพ รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมด ปีละ 122,757 ราย มะเร็งตับและท่อน้ำดีถือเป็นมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 1 ในเพศชาย และอันดับ 2 ในเพศหญิง จากข้อมูลทะเบียนมะเร็งประเทศไทย (ปี 2558) พบว่ามีผู้ป่วยมะเร็งตับและท่อน้ำดีรายใหม่ 20,671 ราย ในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 15,912 ราย ซึ่งมะเร็งตับที่พบมากในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะเร็งของเซลล์ตับและมะเร็งท่อน้ำดีตับโดยพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ สาเหตุของมะเร็งตับเกิดจากการเป็นพาหะของไวรัสตับอักเสบชนิดบี ส่วนสาเหตุของมะเร็งท่อน้ำดีเกิดจากพยาธิใบไม้ตับร่วมกับการรับประทานอาหารที่มีดินประสิว (ไนเตรท) และไนไตรท์ เช่น ปลาร้า ปลาจ่อม ปลาส้ม แหนม ฯลฯ นอกจากนี้ การดื่มสุราเป็นประจำ การรับสารพิษอะฟลาทอกซินที่เกิดจากเชื้อราบางชนิดที่พบในอาหารประเภทถั่ว ข้าวโพด พริกแห้ง รวมถึงไวรัสตับอักเสบชนิดซีก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งตับได้ ทั้งนี้อาการของมะเร็งตับและท่อน้ำดี ในผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแสดงแตกต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปมักไม่มีอาการในระยะแรก อาการส่วนใหญ่ที่พบ คือ แน่นท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อเป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด ปวดหรือเสียดชายโครงขวา อาจคลำพบก้อนในช่องท้อง ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโต และมีอาการบวมบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง เป็นต้น หากมีอาการเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เช่น การตรวจเลือดดูความผิดปกติการทํางานของตับ การตรวจระดับอัลฟาฟีโตโปรตีน การอัลตราซาวด์เพื่อดูก้อนที่ตับ การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือการตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็ก…

ข่าวปลอม อย่าแชร์! เมล็ดต้นงิ้วช่วยรักษาโรคมะเร็งได้

ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฏในสื่อออนไลน์ ในประเด็นเรื่อง เมล็ดต้นงิ้วช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลในสื่อออนไลน์ ว่าเมล็ดต้นงิ้วช่วยรักษาโรคมะเร็งได้ ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่า ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันว่าเมล็ดต้นงิ้วสามารถนำมาใช้รักษามะเร็งในมนุษย์ โดยต้นงิ้ว (Bombax ceiba L.) เป็นไม้ยืนต้นชนิดหนี่ง จากการสืบค้นข้อมูลมีเพียงงานวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการ พบว่า มีการนำส่วนต่าง ๆ ของต้นงิ้ว เช่น ใบ ราก ดอก และเมล็ด มาทดสอบหาสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงรายงานวิจัยเบื้องต้นและมีจำนวนน้อยมาก ขณะเดียวกันปัจจุบันยังไม่พบการศึกษาวิจัยที่ใช้เมล็ดต้นงิ้วรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณาหรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนและอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ปัจจุบันยังไม่พบการศึกษาวิจัยที่ใช้เมล็ดต้นงิ้วรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ หน่วยงานที่ตรวจสอบ : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

ข่าวปลอม อย่าแชร์! ทองพันชั่ง อังกาบหนู สามารถรักษาโรคมะเร็งผิวหนังได้

ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฏในสื่อออนไลน์ ในประเด็นเรื่อง ทองพันชั่ง อังกาบหนู สามารถรักษาโรคมะเร็งผิวหนังได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ จากกรณีที่มีข้อมูลปรากฏในสื่อออนไลน์ ว่าทองพันชั่ง และอังกาบหนูสามารถรักษาโรคมะเร็งทางผิวหนังได้ ทั้งโรคมะเร็งภายนอกและภายใน และโรคมะเร็งแผลเรื้อรัง ทางสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่าจากการสืบค้นข้อมูล ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันแน่ชัดว่าทองพันชั่ง และอังกาบหนูสามารถรักษาโรคมะเร็งผิวหนังในมนุษย์ได้ โดยทองพันชั่ง (Rhinacanthus nasutus Kurz) และอังกาบหนู (Barleria prionitis L.) เป็นพืชที่ถูกนำมาใช้ในตำหรับยาสมุนไพรพื้นบ้านมีสรรพคุณหลายด้าน เช่น ลดไข้ ลดอาการกลาก เกลื้อนและผื่นคัน แต่ยังไม่มีหลักฐานงานวิจัยยืนยันแน่ชัดว่าทองพันชั่ง และอังกาบหนูสามารถรักษาโรคมะเร็งผิวหนังได้ อีกทั้งเน้นย้ำว่าสมุนไพรมีคุณประโยชน์แต่ควรศึกษารายละเอียดด้านสรรพคุณ ชนิดของสมุนไพร ฤทธิ์ทางเภสัช และวิธีการใช้สมุนไพรอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งควรปรึกษาแพทย์และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การรับฟังข้อมูลที่ไม่ผ่านการพิจารณา หรือตรวจสอบข้อเท็จจริง อาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน และอาจลดโอกาสการรักษาทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ http://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ หรือ www.nci.go.th หรือโทร. 02 2026800 บทสรุปของเรื่องนี้คือ :…