รู้ทันมะเร็ง : พาพ่อไปตรวจมะเร็งกันเถอะ : โดย : นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  28 ธ.ค. 2555           เดือนธันวาคมเดือนของคุณพ่อ ปีนี้นับเป็นปีมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยพระชนมายุครบ 85 พรรษาเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคมนำความปลาบปลื้มมาสู่พสกนิกรไพร่ฟ้าประชาชนที่มากันเนืองแน่นเต็มลานพระบรมรูปทรงม้าและถนนราชดำเนิน นอกจากนั้นเดือนนี้พระองค์ยังเสด็จฯ ไปตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่งไม่ว่าจะเป็นสวนสมเด็จย่า ร้านโกลด์เด้นเพลส พี่น้องชาวไทยที่เห็นภาพข่าวต่างก็มีความสุขมีกำลังใจกันถ้วนหน้า ก็อย่าลืมหันกลับมาดูแลคุณพ่อที่บ้านพาไปตรวจสุขภาพตรวจมะเร็งประจำปีซะเลยก็ดี           อันดับแรกสำหรับชายสูงอายุ มะเร็งของเฉพาะเพศชายที่มีแนวโน้มพบบ่อยมากขึ้นในช่วงหลังก็คือมะเร็งต่อมลูกหมาก ไม่ต้องรอให้ท่านมีอาการปัสสาวะไม่พุ่ง ปัสสาวะบ่อยปัสสาวะลำบาก พาท่านมาให้แพทย์ตรวจโดยใช้นิ้วคลำต่อมลูกหมากทางทวารหนัก เจาะเลือดหาค่าพีเอสเอ ตรวจอัลตราซาวนด์ทางทวารหนักเพื่อดูต่อมลูกหมากให้ละเอียด อันดับต่อไปก็มะเร็งตับและทางเดินน้ำดีแชมป์อันดับหนึ่งที่พบบ่อยที่สุดในชายไทย นอกจากเจาะเลือดดูการทำงานของตับ เจาะเลือดหาค่าสารบ่งชี้มะเร็งอัลฟ่าฟีโตโปรตีนหรือเอเอฟพี ตรวจอัลตราซาวนด์ดูตับและทางเดินน้ำดีแล้ว ที่มักมองข้ามกันก็คือการเจาะเลือดหาไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี เพราะเป็นสาเหตุของตับอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นตับแข็งและมะเร็งเซลล์ตับในที่สุด นอกเหนือจากการดื่มสุราที่ใครๆ ก็รู้ว่าเป็นสาเหตุของตับแข็งแล้ว ตามด้วยตรวจเอกซเรย์ปอดว่ามีเงาอะไรผิดปกติที่จะกลายเป็นมะเร็งปอดมะเร็งที่พบบ่อยอันดับสองหรือไม่ ตบท้ายด้วยการตรวจหาเม็ดเลือดแดงในอุจจาระ เพื่อดูว่ามีความผิดปกติอะไรในลำไส้ใหญ่และทวารหนักหรือไม่ โดยเฉพาะคุณพ่อทันสมัยยุคใหม่ที่มีแนวทางการดำเนินชีวิตแบบตะวันตก มากขึ้นที่ชอบกินอาหารไขมันสูงและไม่ค่อยออกกำลังกาย ก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักมากกว่าคุณพ่อที่ใช้ชีวิตแบบไทยๆ กินข้าวกับน้ำพริกผักรวม ถ้าตรวจเจอเม็ดเลือดแดงก็อาจเป็นได้หลายโรคหลายภาวะตั้งแต่ริดสีดวงทวารหนัก แผลในลำไส้ ติ่งเนื้อ ลำไส้เป็นกระพุ้งและมะเร็ง…

รู้ทันมะเร็ง : แต๊บๆ มะเร็งองคชาต : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  20 พ.ค. 2559           ต้นเดือนที่ผ่านมามีข่าวสาวประเภทสองคนดังในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กโชคร้ายเป็นมะเร็งองคชาต โดยมีความเชื่อว่าการเก็บหรือหลบหรืออำพรางซ่อนเร้นอวัยวะเพศชาย ที่คนรุ่นใหม่รู้จักกันในคำว่า “แต๊บ” เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งองคชาต ทำเอาผู้คนพากันให้ความสนใจกับโรคนี้กันยกใหญ่           จริงๆ แล้วมะเร็งองคชาตไม่ได้เป็นมะเร็งที่พบบ่อย ไม่ติดใน 10 อันดับแรกของมะเร็งที่พบในผู้ชายไทยเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากองคชาตเป็นอวัยวะเพศชายที่อยู่ภายนอก สามารถสังเกตความผิดปกติด้วยตนเองได้ง่าย ถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผลที่หายช้าผิดปกติ เป็นผื่นหรือมีก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อผิดปกติ บรรดาคุณผู้ชายส่วนใหญ่มักไม่ค่อยนิ่งดูดาย ต้องรีบมาให้แพทย์ตรวจรักษาของรักของหวงนี้เกือบทุกรายไป แต่ที่ยังพบมะเร็งชนิดนี้เป็นระยะ ส่วนใหญ่มักพบในชายที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศไม่เปิด หรือไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายมาล้างทำความสะอาดได้ มีการสะสมของสารคัดหลั่งจากต่อมไขมันบริเวณซอกระหว่างหัวขององคชาตกับหนังหุ้มปลาย เป็นขุยขาวๆ เหลืองๆ คล้ายแป้งมีกลิ่นเหม็น ที่เรียกว่า สเมกม่า หรือขี้เปียก เมื่อเกิดการหมักหมมเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการระคายเคือง มีการอักเสบเรื้อรังจนทำให้เป็นมะเร็งในที่สุด ยิ่งไม่สามารถรูดเปิดหนังหุ้มปลายได้ ก็ยิ่งหมดโอกาสที่จะสังเกตความผิดปกติของผิวหนังบริเวณนั้น มารู้อีกทีก็ตอนที่เป็นมากขึ้น มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ มีหนองหรือเลือดไหลออกมา หรือมีก้อนโตบริเวณขาหนีบจากการที่มะเร็งกระจายไปต่อมน้ำเหลือง นอกจากนั้นมักพบไวรัสหูดหรือไวรัสเอชพีวีร่วมด้วยในผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งองคชาต อีกกลุ่มที่มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งชนิดนี้…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งหายขาดแล้วจริงหรือ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  22 เม.ย. 2559           เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ผู้ป่วยโรคมะเร็งทุกคนที่ได้รับการรักษา ต่างก็อยากหายขาดจากโรคมะเร็งกันทั้งนั้น จนเป็นคำถามยอดฮิตที่ผู้ป่วยมักจะถามแพทย์ผู้รักษาเสมอว่า ตัวเองมีโอกาสหายขาดมั้ย หรือหายขาดรึยัง หลังจากที่รักษาไประยะหนึ่งแล้ว แท้จริงแล้วมีหลายประเด็นที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อการหายขาดจากโรคมะเร็ง           ประเด็นแรกเริ่มต้นจากอวัยวะที่เป็นมะเร็งและระยะที่เป็น รวมไปถึงชนิดและความรุนแรงของเซลล์มะเร็ง ต้องเข้าใจก่อนว่ามะเร็งของอวัยวะเดียวกัน ระยะเดียวกันแต่ชนิดของเซลล์มะเร็งที่แตกต่างกัน ก็มีผลต่อพยากรณ์โรคที่ต่างกัน และแน่นอนที่ระยะของโรคที่เป็นน้อยกว่าย่อมมีโอกาสหายขาดมากกว่าระยะที่เป็นมากแล้ว มะเร็งของคนละอวัยวะที่ต่างกันก็มีความรุนแรงของโรคที่แตกต่างกันเช่นกัน ประเด็นที่สองที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือหลังจากได้การวินิจฉัยที่รวดเร็วแน่นอนแล้ว วิธีการรักษาไม่ว่าจะเป็นวิธีใดต้องทำในระยะเวลาที่รวดเร็วเช่นกัน ที่สำคัญนอกจากความไม่ล่าช้าในการรักษาแล้ว ความสมบูรณ์ในการเอาก้อนมะเร็งออกจากร่างกายให้มากที่สุดและขณะเดียวกันก็ไม่ไปทำให้เซลล์มะเร็งแพร่กระจาย ก็เป็นประเด็นที่สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดในมะเร็งระยะที่ยังไม่ลุกลาม ที่ต้องผ่าตัดเอาก้อนเนื้อและบริเวณข้างเคียงที่มีการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งออกให้หมด ก็จะส่งผลให้การรักษาอย่างอื่นที่ตามมา ที่ต้องตามเก็บเซลล์มะเร็งที่ยังอาจหลงเหลืออยู่ เช่น การฉายแสง การให้ยาเคมีบำบัด ให้ได้ผลดีและผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้สูง ตรงกันข้ามการวินิจฉัยที่ล่าช้า การรักษาที่จัดการมะเร็งไม่ราบคาบ โอกาสที่จะหายขาดก็น้อยลงอย่างไม่ต้องสงสัย           หลังจากได้รับการรักษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การที่ผู้ป่วยมาติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการหายขาดจากโรคมะเร็งด้วยเช่นกัน มะเร็งหลายอวัยวะแม้ว่าได้รับการรักษาเต็มที่แล้ว…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งดารา มะเร็งอาชีพ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  1 เม.ย. 2559           ช่วงนี้มีดารานักแสดงหลายท่านออกมาเปิดตัวอย่างไม่อายว่า ตนเองเป็นมะเร็งอวัยวะนั้นอวัยวะนี้กันมากขึ้น จนกลายเป็นที่สนใจของแฟนๆ และประชาชนทั่วไปมากกว่าแต่ก่อน ว่าทำไมช่วงนี้ดาราศิลปินจึงเป็นมะเร็งกันมากขึ้น หรืออาชีพนี้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูงกว่าอาชีพอื่น           จริงๆ แล้วอาชีพดารานักแสดงนั้นไม่ได้มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งสูงกว่าอาชีพอื่นแต่อย่างใด แต่อาจมีปัจจัยเสี่ยงในแง่ของการใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงมากกว่าอาชีพอื่น โดยเฉพาะบรรดาศิลปินคิวทองที่มีงานมากๆ เช่น การทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ ขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ กินอาหารขยะ อาหารไขมันสูง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่มีเวลาตรวจสุขภาพ ล้วนแล้วแต่เป็นพฤติกรรมเสี่ยงที่ทุกคนทุกอาชีพไม่ควรปฏิบัติ แต่ทุกครั้งที่มีข่าวดาราเป็นมะเร็ง สังคมจะให้ความสนใจเรื่องสุขภาพเรื่องโรคมะเร็งกันมากขึ้น อาจจะได้ผลดีกว่าการรณรงค์ตามรูปแบบปกติเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกจากกำลังใจที่ไหลหลากมาจากทั่วทุกสารทิศแล้ว ยังเป็นบทเรียนชีวิตจริงที่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับพี่น้องประชาชน ให้หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น           ในส่วนของ อาชีพที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าอาชีพอื่น เนื่องมาจากการได้รับสารเคมีหรือสารก่อมะเร็งจากสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานมากกว่าอาชีพอื่นนั้น ก็เช่น อาชีพเกี่ยวกับการทำผ้าเบรก คลัชต์ ฉนวนกันความร้อน ฝ้าเพดาน…

รู้ทันมะเร็ง : เครียดแล้วเป็นมะเร็งจริงหรือ? : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก 7 ส.ค. 2558           ใครไม่เคยเครียดบ้าง ยกมือขึ้น คงไม่มีใครหน้าไหนยกมือให้คนเขาโห่ฮาเปล่าๆ เพราะสัตว์โลกทุกชนิดตั้งแต่แรกเกิดจนจากโลกนี้ไป ไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดไหนสามารถหลีกหนีจากความเครียดได้เลย ไม่ว่าจะเป็นความเครียดทางกายภาพ ทางจิตใจและทางอารมณ์ ยิ่งโลกในยุคปัจจุบันเต็มไปด้วยสารพัดตัวกระตุ้นให้มนุษย์เรามีความเครียดเพิ่มมากขึ้น จนหลายคนเชื่อว่าความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งของการเป็นมะเร็ง           เมื่อเกิดความเครียดขึ้น ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนเพื่อตอบสนองต่อความเครียดนั้น ส่งผลให้มีการเพิ่มขึ้นของการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตและระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น จากการศึกษาพบว่าการมีความเครียดน้อยๆ ในช่วงสั้นๆ ส่งผลดีกับร่างกาย เข้าทำนองไม่ให้ร่างกายเฉื่อยชาจนเกินไป ซึ่งไม่ต่างอะไรจากการใช้ชีวิตในสังคมเมืองยุคปัจจุบัน แต่การเผชิญหน้ากับความเครียดสูงต่อเนื่องเรื้อรัง ความเครียดรุนแรงประเภทนี้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเราอ่อนแอลง บาดแผลหายช้าลง เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการทางจิตใจ เช่น วิตกกังวล กลุ้มใจ นอนไม่หลับ ซึมเศร้า จนเลวร้ายถึงขั้นฆ่าตัวตายแล้ว ยังส่งผลให้เกิดอาการทางกายที่ผิดปกติมากมายหลายระบบ เช่น การย่อยอาหาร การถ่ายปัสสาวะ ระบบสืบพันธุ์ มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสมากขึ้น ที่สำคัญความเครียดยังนำไปสู่การมีพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง เช่น สูบบุหรี่ กินเหล้าหนัก ไม่ออกกำลังกาย…

รู้ทันมะเร็ง : ติ่งเนื้อปากทวารหนัก:มะเร็ง หูด ริดสีดวง? : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก 18 มี.ค. 2559           เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของเดือนมีนาคม เดือนแห่งการรณรงค์ต้านภัยมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มาว่ากันต่อเรื่องติ่งเนื้อบริเวณปากทวารหนัก อีกอาการหนึ่งที่พบบ่อย ที่คนไข้มักจะมีความวิตกกังวลจนต้องมาพบแพทย์ ยิ่งถ้ามีอาการถ่ายเป็นเลือดจะยิ่งวิตกหนักเข้าไปใหญ่ กลัวว่าจะเป็นมะเร็งมากกว่าอย่างอื่น           ก่อนอื่นมาทำความรู้จักทวารหนักกันก่อน ทวารหนักตามหลักกายวิภาคไม่ได้มีแค่รูทวารภายนอกที่เราเห็น แต่ครอบคลุมเข้าไปภายในรูทวารสูงขึ้นไปจากปากทวารหนักอีก 3-5 เซนติเมตร มีความสำคัญเนื่องจากมีหน้าที่เกี่ยวกับการกลั้นอุจจาระ เพราะมีกล้ามเนื้อหูรูด 2 ชนิดคือกล้ามเนื้อหูรูดภายในและกล้ามเนื้อหูรูดภายนอก โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหูรูดภายนอกนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมตามที่สมองสั่งการ อาการติ่งเนื้อที่บริเวณปากทวารหนักอาจจะเป็นได้ตั้งแต่ติ่งเนื้อธรรมดา หูด ริดสีดวงทวารหนัก แผลฉีกขาดเรื้อรัง รวมถึงมะเร็ง ซึ่งแพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยแยกโรคได้ไม่ยาก ด้วยการดูภายนอก การใช้นิ้วคลำในรูทวารหนัก และการส่องกล้องพรอคโตสโคปเพื่อดูหน้าตาเยื่อบุทวารหนัก ถ้าไม่แน่ใจก็ตัดชิ้นเนื้อบริเวณที่สงสัยมาตรวจกันไป           มาว่ากันที่รายละเอียดของโรคมะเร็งทวารหนักดีกว่า สาเหตุของโรคนี้ยังไม่ทราบชัดเจน แต่ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ มีการติดเชื้อไวรัสเอชพีวีหรือไวรัสหูด มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก มีคู่นอนหลายคน เคยเป็นมะเร็งปากมดลูกมาก่อน…

รู้ทันมะเร็ง : ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  17 ก.ค. 2558           มะเร็งเต้านม มะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้หญิงทั่วโลก ไม่เว้นแม้ในประเทศไทยเราที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันแนะนำให้คุณผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีกำลังทรัพย์มารับการตรวจเอกซเรย์เต้านมหรือแมมโมแกรมปีละ 1 ครั้ง ที่ต้องเสียเงินค่าตรวจเองเนื่องจากทั้ง 3 กองทุนที่รับผิดชอบเรื่องสุขภาพคนไทย ยังไม่ให้สิทธิในการตรวจคัดกรองมะเร้งเต้านมฟรีด้วยวิธีการนี้ คำแนะนำที่ใช้ในปัจจุบันก็คือแนะนำให้ผู้หญิงอายุ 20 ปีขึ้นไปตรวจเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำอย่างน้อยเดือนละครั้ง ช่วงวันที่ 7-10 นับจากวันแรกของรอบเดือน           การตรวจเต้านมด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ทราบว่าเต้านมปกติของเราเป็นอย่างไร เมื่อเริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้น ก็จะทราบก่อนและรีบไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ หากโชคร้ายเป็นมะเร็ง ก็เป็นในระยะเริ่มต้น มีโอกาสหายขาดได้สูงมาก ขั้นตอนของการตรวจเต้านมด้วยตัวเองมีอยู่ 3 ขั้นตอนหลักคือ ดู คลำ บีบ เริ่มต้นจากการดูเต้านมของตัวเองหน้ากระจก ประกอบด้วย 3 ท่าย่อย ได้แก่ ท่าแรกยืนตรงแขนชิดลำตัว ดูเปรียบเทียบบริเวณเต้านมทั้ง 2…

รู้ทันมะเร็ง : ชนะมะเร็งเต้านมด้วยริบบิ้นสีชมพู : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  23 ต.ค. 2558           สัญลักษณ์ริบบิ้นสีชมพูหรือโบชมพูเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น โดยเฉพาะเดือนตุลาคม ทั่วโลกมีการรณรงค์เรื่องมะเร็งเต้านมกันเป็นวาระประจำ ที่ทำกันในเดือนตุลาคมของทุกปีอย่างเป็นทางการมา 23 ปีมาแล้วนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2535 เป็นต้นมา หลายองค์กรในต่างประเทศช่วยกันรณรงค์ต้านภัยมะเร็งเต้านมกันมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา เพราะปัจจุบันมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในเพศหญิงทั่วโลกและเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปอดเมื่อรวมทั้ง 2 เพศ ในปี 2555 มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ทั่วโลกปีละประมาณ 1.7 ล้านคน ในขณะที่ของไทยเราเมื่อ 20 ปีก่อนมีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่แค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยมะเร็งทั้งหมดในเพศหญิง แต่ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าหรือ 20 เปอร์เซ็นต์ ปีละประมาณ 1.3 หมื่นราย จนเป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดในหญิงไทยในที่สุด           ทราบข้อมูลแบบนี้ก็อย่าเข้าใจผิดว่าประเทศไทยเราพบมะเร็งเต้านมมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในบ้านเราพบผู้ป่วยมะเร็งเต้านมรายใหม่ 28.5 รายต่อประชากรหนึ่งแสนราย…

รู้ทันมะเร็ง : เลิกกินปลาน้ำจืดดิบ ลดมะเร็งท่อน้ำดี : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  30 ต.ค. 2558           ภาพผู้ป่วยสูงอายุชาวอีสานมาโรงพยาบาลด้วยอาการตัวเหลืองตาเหลือง คันตามตัว เบื่ออาหาร ท้องมาน ที่เคยพบเห็นเป็นประจำในทุกโรงพยาบาล จนแพทย์แทบไม่ต้องตรวจเพิ่มเติมก็บอกได้ว่าเป็นมะเร็งท่อน้ำดีระยะลุกลามนั้น ต่อไปคงจะลดน้อยลงไป เพราะทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมแรงร่วมใจกันมากขึ้น ที่สำคัญคือพี่น้องประชาชนต้องช่วยกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค คือต้องเลิกกินปลาน้ำจืดมีเกล็ดดิบหรือสุกๆ ดิบๆ อย่างจริงจังกันเสียที สำหรับคนที่เลิกกินได้เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว แต่อาจมีการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับแอบแฝงอยู่ จากสถิติพบว่ามีคนไทยประมาณ 8 ล้านคนที่ติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ก็ต้องรับประทานยาถ่ายพยาธิให้เป็นเรื่องเป็นราวตามคำแนะนำของแพทย์ จะได้กำจัดต้นตอของสาเหตุที่ทำให้เกิดเซลล์ท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง จนเซลล์ปกติกลายเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด นอกจากนั้นต้องหลีกเลี่ยงสารก่อมะเร็งพวกไนโตรซามีนจากอาหารหมักดองพวกปลาร้า น้ำปลาร้าที่ชอบใส่กันในการปรุงอาหารอีกด้วย           ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเรื่องหลักๆ ของการป้องกันไม่ให้เป็นมะเร็งท่อน้ำดี แต่การที่จะเอาชนะมะเร็งท่อน้ำดีได้นั้น ต้องพยายามหาวิถีทางที่จะคัดกรองค้นหาโรคมะเร็งในระยะเริ่มต้นให้ได้แต่เนิ่นๆ เพื่อให้ผู้ป่วยหายขาดจากโรคได้สูง ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นมากๆ มีอาการอย่างที่ว่าแล้วค่อยมาพบแพทย์ แม้ว่าในวงการวิชาการด้านระบาดวิทยาโรคมะเร็งยังไม่มีคำแนะนำให้ทำการคัดกรองมะเร็งท่อน้ำดีในระดับประชากร เนื่องจากยังไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข พูดง่ายๆ คือ ลงทุนลงแรงไปตรวจค้นหามะเร็งท่อน้ำดีระยะเริ่มต้นด้วยวิธีการต่างๆ แต่จำนวนผู้ป่วยที่ค้นหาได้นั้น ได้จำนวนไม่มากพอ แตกต่างจากการทำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่ทำในระดับประชากรแล้ว…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็ง ผ่าก่อน หายก่อน : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  20 พ.ย. 2558           การรักษามะเร็งหลักๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสงนั้น การผ่าตัดกับการให้ยาเคมีบำบัดจัดเป็น 2 ประเภทการรักษาที่สร้างความอกสั่นขวัญแขวนให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งมากที่สุด ผู้ป่วยหลายต่อหลายรายหนีไปรักษาด้วยวิธีการอื่น เพราะความกลัวผลที่จะตามมาหลังการรักษาและที่สำคัญคือได้รู้ได้ฟังข้อมูลมาแบบผิดๆ จนหลายรายเสียโอกาสในการรักษาไปอย่างน่าเสียดาย           ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจเรื่องการผ่าตัดกันก่อน ว่าการผ่าตัดที่กล่าวถึงนี้ไม่ใช่การผ่าตัดเล็ก เพื่อให้ได้มาซึ่งผลชิ้นเนื้อ เพื่อยืนยันการวินิจฉัยโรคว่าเป็นมะเร็ง แต่หมายถึงการผ่าตัดเพื่อเป็นการรักษา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดเพื่อหวังผลหายขาดในผู้ป่วยมะเร็งระยะที่ยังไม่แพร่กระจาย ซึ่งมะเร็งของระบบอวัยวะต่างๆ ส่วนใหญ่ร้อยละ 80 ต้องใช้การผ่าตัดเป็นอาวุธหลักอาวุธแรกในการจัดการก้อนมะเร็งก่อนเสมอ โดยทั่วไปผู้ป่วยควรได้รับการผ่าตัดให้เร็วที่สุดหลังได้รับการวินิจฉัย นานที่สุดไม่ควรนานเกิน 4 สัปดาห์หลังจากมีการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจวินิจฉัย เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเซลล์มะเร็งที่ยังเหลือจะเริ่มแพร่กระจายไปทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางกระแสเลือด ทางน้ำเหลืองและการลุกลามไปยังเนื้อเยื่อข้างเคียง ทำให้โอกาสในการหายขาดจากโรคน้อยลง เพราะฉะนั้นผู้ป่วยที่มัวแต่เอ้อระเหยลอยชาย ยังกลัวๆ กล้าๆ ไม่ตัดสินใจ ยังเที่ยวเดินสายหาการรักษาทางเลือกอยู่ ก็อย่ามัวแต่ใจเย็น ต้องรีบตัดสินใจผ่าตัด ก่อนที่โอกาสทองจะหลุดลอยไป      …