รู้ทันมะเร็ง : ปีใหม่ปีลิงเรื่องมะเร็งเรื่องกล้วยๆ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  1 ม.ค. 2559           ก้าวสู่ศักราชใหม่ปีวอกปีลิง ต้นปีแบบนี้เชื่อว่าหลายท่านยังคงอยู่ในบรรยากาศของงานฉลองปีใหม่ยังไม่เลิกรา ก็อย่าลืมสนใจสุขภาพตัวเองด้วย ช่วงต้นปีแบบนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการวางแผนตั้งเป้าหมายที่จะทำ โดยเฉพาะเรื่องการวางแผนไม่ให้โรคมะเร็งมาเยี่ยมเยือนเราในปีนี้           คำอวยพรปีใหม่ให้สุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บที่ชอบอวยพรกันนั้น จะไม่มีทางเป็นจริงได้เลย หากตัวเรายังประพฤติปฏิบัติตัวทำร้ายสุขภาพกันเป็นว่าเล่น สุขภาพที่ดีนั้นมาจากตัวเราและการใช้ชีวิตของแต่ละคนเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าอยากห่างไกลจากโรคมะเร็งในปีนี้หรือปีไหนๆ ก็ต้องเข้าใจเรื่องสาเหตุหลักๆ ของโรคมะเร็งกันเสียก่อน เริ่มตั้งแต่สาเหตุแรกคือกรรมพันธุ์ มีมะเร็งหลายอวัยวะที่มีสาเหตุจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม เมื่อก่อนเรารู้แต่เพียงว่าโรคหรือภาวะความผิดปกติบางอย่างที่ติดตัวมาแต่กำเนิด เป็นภาวะที่จะนำไปสู่การกลายเป็นมะเร็งในอนาคตเมื่ออายุมากขึ้น แต่ปัจจุบันการศึกษาค้นคว้าวิจัยพัฒนาก้าวหน้าไปมาก สามารถรู้ไปถึงส่วนประกอบภายในของเซลล์ ในระดับยีน ระดับโครโมโซม ระดับโมเลกุลว่าคนที่มียีนหรือโครโมโซมที่ผิดปกติที่ตำแหน่งไหน มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งอะไรมากน้อยแค่ไหน ลงลึกไปจนถึงขั้นจะทำการรักษาในระดับยีนกันเลยทีเดียว ไม่ต้องรอให้เป็นมะเร็งก่อนแล้วมาไล่ตามรักษาอย่างทุกวันนี้ แต่กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งประมาณ 10% เท่านั้น ส่วนอีก 2 สาเหตุที่เหลือคือสภาพแวดล้อมและพฤติกรรม มักเป็นสาเหตุที่ถูกกล่าวถึงคู่กันเสมอ เพราะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกัน สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษเต็มไปด้วยสารก่อมะเร็ง ทั้งจากดิน น้ำ อากาศ แสงแดดและรังสีต่างๆ รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคที่อยู่รายรอบตัวเรา ส่วนสาเหตุที่…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งตับ…อย่ารอให้มีอาการ : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  8 ม.ค. 2559           เป็นข่าวที่ได้รับความสนใจในโซเชียลเน็ตเวิร์กเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เมื่อนักข่าวหนุ่มวัยเพียง 30 ปีมาทราบว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งตับมากแล้ว ทั้งที่พึ่งเริ่มมีอาการไม่นาน ทำเอาผู้คนที่ทราบข่าวพากันให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม           นอกจากเรื่องการรักษาที่ผู้คนพยายามแนะนำและให้กำลังใจกันมากมายแล้ว ยังมีอีกหลายแง่มุมที่จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน ในการดูแลตนเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ ประเด็นแรก หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมอายุก็ยังไม่มาก เป็นมะเร็งตับได้ยังไง สาเหตุหลักในผู้ป่วยมะเร็งเซลล์ตับที่อายุน้อยแบบในรายนี้ ส่วนใหญ่เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเรื้อรัง โดยอาจได้รับเชื้อมาตั้งแต่เกิดจากมารดาที่เป็นโรคนี้อยู่เดิม หรือได้รับเชื้อนี้ภายหลังจากการติดทางเลือดหรือทางเพศสัมพันธ์ มีทั้งแบบที่เป็นพาหะไม่มีอาการอะไรกับแบบแอ็กทีฟที่มีอาการอ่อนเพลียจากการที่เซลล์ตับถูกทำลายมากกว่า ถ้าเป็นชนิดที่เซลล์ตับถูกทำลายมาก ก็มีโอกาสที่จะเกิดพังผืดในเนื้อตับกลายเป็นตับแข็งหรือเป็นมะเร็งตับได้เร็วมากขึ้น ยิ่งถ้าได้รับสารก่อมะเร็งตับที่มีอยู่มากมายในบ้านเรา เช่น สารอะฟลาทอกซิน สารพัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ยิ่งเร่งให้เป็นมะเร็งเซลล์ตับชนิดนี้ได้เร็วขึ้นไปอีก เพราะฉะนั้นใครที่ร้อยวันพันปียังไม่เคยตรวจเลือดว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบีและชนิดซีหรือไม่ มีภูมิต้านทานไวรัสที่ว่านี้แล้วหรือยัง โดยเฉพาะคนที่มีพ่อแม่ ญาติพี่น้องป่วยเป็นมะเร็งตับมาก่อน มีโอกาสเป็นพาหะของโรคนี้และมีโอกาสเป็นมะเร็งเซลล์ตับมากกว่าคนทั่วไป ก็มาเจาะเลือดตรวจให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีตั้งแต่ต้นปีแบบนี้           ประเด็นที่ 2 คือเป็นมากขนาดที่ผ่าตัดไม่ได้แล้วแบบนี้ ทำไมไม่มีอาการแสดงหรือเตือนให้ทราบล่วงหน้ากันบ้างเลยหรือ…

รู้ทันมะเร็ง : ได้เวลาทำสงครามกับมะเร็งท่อน้ำดี : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  15  ม.ค. 2559           สัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัวโครงการทำสงครามกับมะเร็งท่อน้ำดีครั้งยิ่งใหญ่ของบ้านเราที่จ.สกลนคร โดยท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะร่วมเปิดโครงการต่อเนื่อง 2 ปีที่ชื่อว่า โครงการกำจัดปัญหาโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์ครบ 70 ปีในปีพุทธศักราช 2559 พร้อมทั้งสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ตลอดจนในปีพุทธศักราช 2560 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา 90 พรรษา โดยมีการดำเนินการในภาคอีสาน 20 จังหวัด ภาคเหนือ 6 จังหวัด และจ.สระแก้วในภาคตะวันออก เบ็ดเสร็จรวมแล้ว 27 จังหวัด เนื่องจากจังหวัดเหล่านี้มีอุบัติการณ์ของโรคพยาธิใบไม้ตับสูงกว่าจังหวัดอื่นๆ           สืบเนื่องมาจากปัญหาโรคมะเร็งท่อน้ำดียังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของบ้านเรา เพราะ…

รู้ทันมะเร็ง : กำลังใจไล่มะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  12 ก.พ. 2559           ปัจจุบันผู้คนในสังคมหันมาให้ความสนใจกับผู้ป่วยโรคมะเร็งมากขึ้น โดยเฉพาะกิจกรรมที่ช่วยให้กำลังใจผู้ป่วย จากเดิมที่อาจถูกมองว่าเป็นโรคที่ทำอะไรไม่ได้ เป็นแล้วไม่มีทางรักษา ทำให้มักถูกมองข้ามจากภาคประชาสังคมเป็นประจำ แต่ปัจจุบันมีการทำกิจกรรมซีเอสอาร์จากกลุ่มต่างๆ ให้กับผู้ป่วยมะเร็งมากขึ้น ไม่ว่าจะมาจากหน่วยงานภาครัฐหรือภาคเอกชนบริษัทห้างร้านต่างๆ แต่เท่าที่สังเกตจากเหตุการณ์จริง ถ้ามีศิลปินนักร้องนักแสดงที่เป็นขวัญใจประชาชนมาเยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ป่วยจะมีรอยยิ้มมีความสุขมากที่สุด ยิ่งถ้าศิลปินไม่ถือเนื้อถือตัวให้ความเป็นกันเอง ผู้ป่วยจะมีกำลังใจในการต่อสู้กับโรคร้ายมากขึ้น อย่างสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ต้านภัยมะเร็ง เนื่องในโอกาสวันมะเร็งโลก คุณบี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว ได้ไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ป่วยโรคมะเร็งที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ทำเอาทั้งผู้ป่วยและญาติต่างมีกำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะต่อสู้กับโรคร้ายต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ           ในส่วนของตัวผู้ป่วยเอง ก็เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการสร้างกำลังใจภายในตัวเองเพื่อต่อสู้กับโรคร้าย ต่อให้กำลังใจจากภายนอกจากคนรอบข้างจะมากมายเพียงใด ถ้าใจของผู้ป่วยเองไม่สู้ ก็ไม่มีใครช่วยอะไรได้ ใครไม่เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือไม่มีญาติสนิทเป็นมะเร็ง คงไม่เข้าใจความรู้สึกว่ามันสลดหดหู่เพียงไร แต่การที่ตัวผู้ป่วยคิดบวก ไม่ยอมแพ้ เป็นการสร้างกำลังใจให้กับตนเองได้อย่างดีที่สุด มีตัวอย่างวิธีคิดที่น่าชื่นชมของคนไข้ที่คิดบวกแบบง่ายๆ เช่น รักษาโรคทางกายเป็นหน้าที่ของหมอ แต่รักษาใจเป็นหน้าที่ของคนไข้เอง ไม่มีใครรักษาแทนได้ ผู้ป่วยที่มีมะเร็งกระจายไปทั่วตับทั้งสองกลีบ ยังคิดบวกว่าโชคดีที่ไม่ต้องโดนผ่าตัด ผู้ป่วยที่เบื่ออาหารในช่วงที่ได้ยาเคมีบำบัด…

รู้ทันมะเร็ง : 5 ทำ ห่างไกลมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  19 ก.พ. 2559           ความพยายามในการที่จะลดจำนวนผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ ยังเป็นหัวใจสำคัญในการเอาชนะปัญหาโรคมะเร็งที่เป็นปัญหาสาธารณสุขในหลายประเทศทั่วโลก จากการที่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งหลายชนิด และจากการที่มะเร็งหลายชนิดมีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหลายปัจจัยทำให้เป็นความยากในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ที่สำคัญต้องย้ำว่ามะเร็งเป็นโรคที่ป้องกันได้ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมและสิ่งแวดล้อม นั่นคือการสร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพที่ดีไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและหลีกเลี่ยงสภาวะมลพิษต่างๆ ที่เต็มไปด้วยสารก่อมะเร็งที่อยู่รอบตัวเรา           คำแนะนำที่จำง่าย เข้าใจง่ายของสถาบันมะเร็งแห่งชาติที่ว่า “5 ทำ 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็ง” เป็นข้อแนะนำที่ผู้อ่านสามารถนำไปปฏิบัติเพื่อป้องกันการเป็นมะเร็งได้จริง 5 ทำ ได้แก่ “ออกกำลังกายเป็นนิจ-ทำจิตแจ่มใส-กินผักผลไม้-กินอาหารหลากหลาย–ตรวจร่างกายเป็นประจำ” ส่วน 5 ไม่ ก็ได้แก่ “ไม่สูบบุหรี่–ไม่มั่วเซ็กส์-ไม่มัวเมาสุรา–ไม่ตากแดดจ้า–ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ” สัปดาห์นี้มาว่ากันที่ 5 ทำกันก่อน เริ่มจากออกกำลังกายเป็นนิจจากงานวิจัยในต่างประเทศร้อยกว่าฉบับมีหลักฐานที่ชัดเจนว่า การออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญ จากการที่การออกกำลังกายช่วยทำให้เกิดสมดุลของพลังงาน การควบคุมระดับอินซูลินและฮอร์โมน เพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายที่สำคัญยังพบว่าคนที่ออกกำลังกายในระดับปานกลางและระดับหนัก 30–60 นาทีต่อวัน มีโอกาสเป็นมะเร็งน้อยกว่าคนที่ออกกำลังน้อยหรือไม่ได้ออกกำลังกายเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ออกกำลังกายอย่างหนักมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมน้อยที่สุด ต่อด้วย ทำจิตแจ่มใส…

รู้ทันมะเร็ง : 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็ง : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  26 ก.พ. 2559           มาว่ากันที่ 5 ไม่ ห่างไกลมะเร็งต่อเลย หลังจากสัปดาห์ที่แล้วกล่าวถึง 5 ทำ ห่างไกลมะเร็งคือ “ออกกำลังกายเป็นนิจ – ทำจิตแจ่มใส – กินผักผลไม้ – กินอาหารหลากหลาย – ตรวจร่างกายเป็นประจำ” ส่วน 5 ไม่ ที่จะพูดถึงวันนี้ ได้แก่ “ไม่สูบบุหรี่ – ไม่มีเซ็กส์มั่ว – ไม่มัวเมาสุรา – ไม่ตากแดดจ้า – ไม่กินปลาน้ำจืดดิบ”           เริ่มกันที่ ไม่สูบบุหรี่ เป็นที่ทราบกันดีว่า บุหรี่เป็นสาเหตุของมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งหลอดอาหาร…

รู้ทันมะเร็ง : ออรัลเซ็กส์กับมะเร็งช่องปาก : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  14 มิ.ย. 2556           ช่วงนี้บรรดาดาราฮอลลีวู้ดออกมาเป็นข่าวในวงการสุขภาพบ่อยกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่แองเจลินา โจลีออกมาสร้างกระแสให้ตระหนักถึงภัยของมะเร็งเต้านมกันอย่างครึกโครมดังสนั่นไปทั่วโลก ล่าสุดดารายอดนิยมรุ่นเก่าฝ่ายชาย ไมเคิล ดักกลาส ก็ออกมาสร้างความฮือฮาเรื่องมะเร็งลำคอที่ตนเองเป็นว่าอาจมีสาเหตุจากการทำออรัลเซ็กส์ เป็นการกระตุ้นให้สังคมตื่นตัวให้ความสนใจได้ดีกว่าการรณรงค์ตามรูปแบบปกติเสียอีก           อันที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการแพทย์แต่อย่างไร เพียงแต่สังคมทั่วไปอาจจะยังไม่ค่อยได้รับรู้มาก่อนว่ามะเร็งช่องปากและมะเร็งลำคอด้านในบริเวณโคนลิ้น เพดานอ่อนและต่อมทอนซิลมีสาเหตุประการหนึ่งจากไวรัสหูดหรือไวรัสเอชพีวีที่หลายคนรู้จักว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มะเร็งทวารหนัก มะเร็งอวัยวะเพศชาย มะเร็งอวัยวะเพศหญิงและมะเร็งช่องคลอด ส่วนที่จะเป็นสาเหตุที่แน่นอนในกรณีของไมเคิล ดักกลาสนั้นก็ไม่สามารถยืนยันฟันธงได้ เพราะสาเหตุของมะเร็งช่องปากและมะเร็งลำคอนั้นมีมากมายหลายอย่าง เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ การเคี้ยวหมาก รวมทั้งเชื้อไวรัสหูดด้วย ซึ่งเจ้าเชื้อไวรัสหูดที่ว่าก็ไม่ได้มีอยู่เฉพาะที่บริเวณอวัยวะเพศเพียงที่เดียว แต่มีอยู่ทั่วไปบริเวณเนื้อเยื่อที่มีโอกาสสัมผัส เชื้อนี้มีอยู่มากมายกว่า 150 สายพันธุ์ย่อย เชื่อว่าในช่วงชีวิตของทั้งเพศชายและหญิงมีโอกาสได้รับเชื้อไวรัสตัวนี้อย่างน้อยหนึ่งสายพันธุ์ มีทั้งที่ทำให้เกิดอาการและไม่แสดงอาการอะไร แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับเชื้อมักไม่มีอาการใดๆ และมักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา มีทั้งที่ไม่ทำให้เป็นมะเร็งและเป็นสาเหตุของมะเร็ง เพราะฉะนั้นจึงเป็นการยากที่จะสรุปว่าพฤติกรรมออรัลเซ็กส์เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งช่องปากและมะเร็งลำคอ           ศูนย์ควบคุมโรคของประเทศสหรัฐอเมริการายงานว่าในแต่ละปีมีผู้หญิงเป็นมะเร็งลำคอ…

รู้ทันมะเร็ง : กลืนไม่เข้า-น้ำลายไหลออก-สำรอกไม่หยุด : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  3 ก.พ. 2555           เชื่อหรือไม่ครับว่าปกติแล้ววันหนึ่งๆ มนุษย์เราต้องกลืนน้ำลาย กลืนอาหารประเภทต่างๆ เบ็ดเสร็จเฉลี่ยแล้ววันละประมาณ 2,000-2,400 ครั้ง ทีนี้ลองจินตนาการดูว่าหากวันหนึ่งเราไม่สามารถกลืนได้ตามปกติ ต้องบ้วนน้ำลายทิ้งเป็นระยะๆ และอาเจียนออกมาวันละหลายๆ รอบ มันจะทรมานขนาดไหนกัน           ความทุกข์ทรมานที่ยกตัวอย่างให้เห็นข้างต้นนั้น เป็นอาการของผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องการอุดตันของหลอดอาหารไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม มะเร็งหลอดอาหารในระยะที่เป็นมากแล้วก็มีอาการเช่นเดียวกัน โดยมักมีอาการค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการกลืนอาหารปกติลำบากก่อน ต่อมาเมื่อก้อนเนื้องอกโตมากขึ้นเริ่มเบียดบังรูของหลอดอาหารให้แคบเล็กลง ก็ทำให้กลืนพวกอาหารอ่อน เช่น โจ๊กหรือข้าวต้มยากขึ้น ท้ายที่สุดก็กินได้แต่อาหารเหลวและมีอาการอาเจียนมากขึ้นโดยลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากหลอดอาหารของคนเรามีลักษณะเป็นท่อตั้งแต่บริเวณลำคอทอดตัวอยู่ด้านหลังในช่องอกผ่านกะบังลมลงสู่กระเพาะอาหารบริเวณใต้ลิ้นปี่ ผู้ป่วยอาจบอกตำแหน่งได้คร่าวๆ ว่ามีความรู้สึกกลืนติดอยู่บริเวณไหน บางรายมีเจ็บในช่องอก ไอเรื้อรัง ไอเป็นเลือด เสียงแหบร่วมด้วย แน่นอนครับว่าผู้ป่วยมะเร็งหลอดอาหารส่วนใหญ่มีน้ำหนักลด ผอมลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากอาหารไม่สามารถผ่านลงไปให้ลำไส้ได้ดูดซึมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้เหมือนกับมะเร็งของอวัยวะอื่น จึงส่งผลต่อผลการรักษา ลำพังลักษณะทางกายวิภาคของหลอดอาหารเองและการลุกลามไปสู่อวัยวะข้างเคียงที่สำคัญของตัวโรคเองก็ทำให้การรักษายุ่งยากมากพออยู่แล้ว หลายรายต้องมาบำรุงมาขุนให้ภาวะขาดสารอาหารดีขึ้นเสียก่อนแล้วจึงเริ่มให้การรักษา           ส่วนเรื่องที่ใครๆ…

รู้ทันมะเร็ง : ไทรอยด์สู้สู้ไทรอยด์สู้ตาย : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  27 ม.ค. 2555           จั่วหัวกันแบบเชียร์กีฬาเหมือนกับเชียร์ทีมชาติไทยอย่างนี้ เพราะวันนี้จะขอกล่าวถึงมะเร็งของต่อมไทรอยด์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคมะเร็งที่มีพยากรณ์โรคค่อนข้างดี เรียกว่าหากรักษาตามที่แพทย์ให้คำแนะนำก็มีโอกาสหายขาดได้สูงมากกว่ามะเร็งของอวัยวะอื่นๆ อย่างนี้ก็ต้องให้กำลังใจให้สู้สู้ให้เต็มที่กันหน่อยนะครับ           เจ้าต่อมไทรอยด์ที่พูดถึงนั้นอยู่บริเวณลำคอด้านหน้าลูกกระเดือกของเราแหละครับ ทั้งเพศชายเพศหญิงมีต่อมนี้เหมือนๆ กัน เวลากลืนน้ำลายก็จะเคลื่อนขึ้นลงตามการขยับของลูกกระเดือก ถ้าใครมีก้อนบริเวณนี้ลองไปส่องกระจกแล้วกลืนน้ำลายสังเกตดู ถ้าก้อนนั้นขยับขึ้นลงตามการกลืนละก็ สันนิษฐานเบื้องต้นว่าน่าจะเป็นก้อนเนื้องอกของต่อมไทรอยด์แล้วล่ะครับ แต่ใช่ว่าก้อนของต่อมไทรอยด์ที่เราเห็นคุ้นตาเช่น คนที่เป็นโรคคอพอกคอโตในภาคเหนือจะเป็นมะเร็งกันหมดนะครับ นั่นเป็นเพราะขาดสารไอโอดีน กับอีกพวกที่พบได้บ่อยเช่นกันคือ ก้อนที่คอโตจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินปกติที่เรียกว่าไทรอยด์หรือคอพอกเป็นพิษ พวกนี้จะมีอาการใจสั่น เหนื่อยง่าย กินจุแต่น้ำหนักลด แต่มะเร็งของต่อมไทรอยด์มักมาด้วยอาการก้อนไม่ใหญ่โตและมักไม่มีอาการเจ็บปวด บางรายอาจมาด้วยเรื่องมีก้อนด้านข้างลำคอจากต่อมน้ำเหลืองโตหรือมีอาการเสียงแหบจากก้อนเนื้อไปกดเส้นประสาท           อย่างไรก็ตาม ก้อนเนื้องอกของต่อมไทรอยด์ส่วนใหญ่คือร้อยละ 90 มักไม่เป็นมะเร็ง เพราะ ฉะนั้นคนที่มีก้อนที่ต่อมไทรอยด์ก็อย่าพึ่งตีตนไปก่อนไข้ ส่วนใหญ่ของก้อนมักเป็นพวกถุงน้ำหรือพวกเนื้องอกธรรมดา ซึ่งการจะแยกให้ได้ชัดเจนว่าเป็นมะเร็งหรือไม่นั้น ปัจจุบันนิยมใช้เข็มขนาดเล็กเจาะดูดเอาเซลล์ในก้อนออกมาตรวจ ถ้าตรวจพบเซลล์มะเร็งก็จะได้วางแผนการรักษาผ่าตัดเอาเนื้อต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดก็ว่ากันไป หรือจะแถมการผ่าตัดเลาะเอาต่อมน้ำเหลืองบริเวณลำคอออกไปด้วยก็แล้วแต่กรณีไป ลงท้ายมักจะตามด้วยการให้กินสารไอโอดีน 131…

รู้ทันมะเร็ง : มะเร็งจากความเค็ม : โดย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ

เครดิต : คมชัดลึก  30 ส.ค. 2555           หลายคนคงรู้ว่าคนที่ชอบกินเค็มเป็นประจำนั้น โรคไตและโรคความดันโลหิตสูงมักจะมาถามหาอยู่เป็นประจำ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้มาก่อนว่าการกินอาหารเค็มบ่อยๆ ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าปกติเช่นกัน เพราะมีงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่มีอุบัติการณ์ของมะเร็งกระเพาะอาหารมากที่สุดในโลก พบว่าการบริโภคอาหารที่มีเกลือหรือโซเดียมคลอไรด์ในปริมาณสูงมีความสัมพันธ์ต่อการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหารอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ           ผู้ร้ายของเรื่องที่ทำให้เกิดความเค็มก็คือเกลือ ไม่ว่าจะเป็นเกลือแกง เกลือสมุทร เกลือสินเธาว์ ก็มีโซเดียมคลอไรด์เป็นส่วนประกอบสำคัญเหมือนกัน ตามปกติแล้วร่างกายควรได้รับโซเดียมประมาณ 2,300-2,400 มิลลิกรัมต่อวันหรือเท่ากับเกลือ 6 กรัมต่อวัน ถ้าจะพูดให้เป็นรูปธรรมวันหนึ่งๆ ไม่ควรบริโภคเกลือเกิน 1-1.5 ช้อนโต๊ะ ในทางปฏิบัติก็ยากที่จะประมาณปริมาณเกลือได้ชัดเจน เพราะในอาหารต่างๆ ที่เรากินอยู่ทุกวันก็มีเกลือเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาหารตามธรรมชาติ อาหารแปรรูป รวมไปถึงเครื่องปรุงรสต่างๆ อาหารธรรมชาติที่มีโซเดียมอยู่ค่อนข้างสูงก็พวกเนื้อสัตว์ต่างๆ ส่วนที่มีโซเดียมต่ำก็พวกผักผลไม้ทุกชนิด เมล็ดธัญพืช พวกถั่วต่างๆ และเนื้อปลา พวกอาหารแปรรูปและเครื่องปรุงรสต่างๆ ที่มีรสเค็มชัดเจนก็ยังพอจะหลีกเลี่ยงได้ แต่อาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงที่มักถูกมองข้ามก็เช่น อาหารกึ่งสำเร็จรูปพวกบะหมี่ โจ๊ก ข้าวต้ม ซุปต่างๆ…